ข่าวสาร Hedge (HDG)

อย่ามัวรอเทรนด์ รับผลตอบแทนจากเทรนด์เลย - บทช่วยสอน Bitget Smart Trend

ตลาดคริปโตอาจเป็นที่ซึ่งเต็มไปด้วยความเสี่ยงและความผันผวน นักเทรดทั่วโลกต่างซื้อขายคริปโตกันตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน หากละเลยอะไรไปแม้เพียงนิดเดียวก็อาจทำให้เสียหายมหาศาลได้ และที่ซับซ้อนยิ่งไปกว่านั้นคือไม่มีใครบอกได้ว่าตลาดจะขึ้นหรือลงมากน้อยแค่ไหน Bitget Smart Trend พร้อมตอบโจทย์ เพียง Subscription เดียวคุณก็สามารถทำกำไรได้ไม่ว่าตลาดจะไปทิศทางไหน โดยที่คุณไม่ต้องคอยจับตาดูราคาทั้งวัน Bitget Smart Trend คืออะไร Smart Trend เป็นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ล่าสุดของเราสู่มุมมองใหม่ในด้านการเงินโดยใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ที่เป็นรายได้ตายตัวร่วมกับตัวเลือกต่างๆ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอนุพันธ์แฝงที่สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี คุณสามารถคาดการณ์ใน Subscription ได้ พร้อมดอกเบี้ยทวีคูณเมื่อราคาปรับตัวในทิศทางที่ตรงกับคุณ และถึงแม้จะผิดทาง คุณก็ยังได้รับ APR พื้นฐานได้เมื่อมีการชำระราคา Subscribe กับ Bitget Smart Trend! Bitget Smart Trend ทำงานอย่างไร ทำงานได้ทั้ง 2 ทิศทาง คุณสามารถ Subscribe ผลิตภัณฑ์ Bullish แล้วรับผลตอบแทนได้เมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงปรับตัวขึ้น หรือ Subscribe ผลิตภัณฑ์ Bearish แล้วรับผลตอบแทนได้เมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงปรับตัวลง ผลิตภัณฑ์ Smart Trend ทั้งหมดจะมีการชำระราคาใน 7 วันหลังจากที่เริ่มสะสมดอกเบี้ย โดยแต่ละผลิตภัณฑ์มาพร้อมช่วงราคาและ APR ที่ต่างกัน ลองดูตัวอย่างจากผลิตภัณฑ์ Bullish BTC Smart Trend สมมติว่ามาพร้อมช่วงราคา $88,000-$93,000 และช่วง APR อยู่ที่ 4.00%-15.26%. ในฐานะ Subscriber ณ เวลาที่มีการชำระราคา จะเป็นดังนี้: หาก BTC ราคาลงไปต่ำกว่า $88,000 คุณจะได้รับ APR ที่รับประกัน 4.00% ของเราสำหรับ 7 วันที่ผ่านมา หาก BTC มีราคาอยู่ระหว่าง $88,000 และ $93,000 คุณจะได้รับรางวัล APR เพิ่มเติมที่จะปรับระดับไปตามสัดส่วนของความแตกต่างระหว่างราคาที่ใช้ชำระราคา BTC กับราคา $88,000 หาก BTC ราคาขึ้นไปเหนือ $93,000 คุณจะได้ APR ระดับสูงสุดคือ 15.26% เสมอ ไม่ว่าราคาจริงจะอยู่ที่เท่าไรก็ตาม หากคุณคาดว่าสินทรัพย์จะ Bearish ก็สามารถลองผลิตภัณฑ์ Bearish ของเราได้ โดยมีกลไกการทำงานในลักษณะเดียวกัน แต่ APR จะสวนทางกันกับการเปลี่ยนแปลงราคาของสินทรัพย์อ้างอิง ลองดูตัวอย่างจากผลิตภัณฑ์ Bearish BTC Smart Trend สมมติว่ามาพร้อมช่วงราคา $80,000-$85,000 และช่วง APR อยู่ที่ 4.00%-15.29% ในฐานะ Subscriber ณ เวลาที่มีการชำระราคา จะเป็นดังนี้: หาก BTC ราคาขึ้นไปเหนือ $85,000 คุณจะได้รับ APR ที่รับประกัน 4.00% ของเราสำหรับ 7 วันที่ผ่านมา หาก BTC มีราคาอยู่ระหว่าง $80,000-$85,000 คุณจะได้รับรางวัล APR เพิ่มเติมที่จะปรับระดับไปตามสัดส่วนของความแตกต่างระหว่างราคาที่ใช้ชำระราคา BTC กับราคา $85,000 หาก BTC ราคาลงไปต่ำกว่า $80,000 คุณจะได้ APR ระดับสูงสุดคือ 15.29% เสมอ ไม่ว่าราคาจริงจะอยู่ที่เท่าไรก็ตาม เริ่มต้นอย่างไร ขั้นตอนที่ 1: สามารถ Subscribe ผลิตภัณฑ์ Smart Trend ของเราได้โดยสมัคร หรือเข้าสู่ระบบบัญชี Bitget ของคุณ จากแอป Bitget เลือก “Smart Trend” ใต้ “Earn” จากเว็บไซต์ Bitget เลือก “Smart Trend” ในส่วน “Earn” จากแถบนำทางด้านบน หรือคลิกลิงก์นี้ ขั้นตอนที่ 2: เลือกดูผลิตภัณฑ์ Smart Trend ที่ร้อนแรงที่สุดแล้วคลิก “Subscribe” ตัวที่ต้องการ อ่านรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึง APR, ช่วงราคา, เวลาชำระราคาและเวลาที่ชำระคืน แล้วจึงป้อนจำนวนที่ต้องการ Subscribe จากนั้นคลิก “ยืนยัน / Confirm” ระบบจะล็อกสินทรัพย์ของคุณไว้หลังจากกดยืนยัน ขั้นตอนที่ 3: สามารถตรวจสอบ Subscription ปัจจุบันและที่ผ่านมาของคุณได้ที่ลิงก์นี้ หรือไปที่แท็บ “Smart Trend” ในบัญชี Earn ของคุณ โปรดทราบว่า Smart Trend เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอนุพันธ์แฝงแบบล็อกซึ่งมีระยะเวลาตายตัว จึงไม่สามารถปลดล็อกล่วงหน้าได้จนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลา Subscription เมื่อครบกำหนด ระบบจะชำระราคาดอกเบี้ยและเงินต้นโดยอัตโนมัติโดยที่คุณไม่ต้องดำเนินการใดๆ ด้วยตนเอง ฉันยังมีข้อสงสัยอยู่… Smart Trend เสี่ยงไหม Smart Trend เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีอนุพันธ์แฝงซึ่งสามารถจำกัดเพดานความเสี่ยงให้อยู่ในช่วงที่จำกัดได้ Subscriber จะได้รับ APR พื้นฐานที่รับประกันไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม อย่างไรก็ดี โปรดทราบว่าเนื่องจากเงินต้นของคุณอยู่ในรูปคริปโต จึงมาพร้อมความเสี่ยงในระดับหนึ่ง เช่น คริปโทเคอร์เรนซีอ้างอิงอาจสูญเสียมูลค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงิน Fiat ช่วงราคาและช่วง APR คงที่หรือไม่ ในกรณีที่ตลาดมีความผันผวนรุนแรง เราอาจปรับช่วงราคาและช่วง APR ของแต่ละผลิตภัณฑ์ Smart Trend เพื่อให้มีผลตอบแทนที่ดีที่สุดก่อนที่จะเริ่มสะสมดอกเบี้ย (เวลาที่สะสมดอกเบี้ย) แต่หากระบบได้ล็อกสินทรัพย์ของทุกคนไว้เรียบร้อยแล้ว ระบบจะกำหนดช่วงราคาและช่วง APR ไว้ตายตัว ผลิตภัณฑ์นี้ชำระราคาอย่างไร หากคุณ Subscribe กับ Smart Trend โดยใช้ BGB Subscription ของคุณจะชำระราคาเป็น USDT เมื่อครบกำหนด หากคุณ Subscribe กับ Smart Trend โดยใช้ BTC, ETH หรือ USDT สกุลเงินที่ใช้ชำระราคาจะเป็นสกุลเงินเดียวกับสกุลเงินที่คุณ Subscribe เมื่อครบกำหนด จะได้รับดอกเบี้ยเมื่อไร เมื่อครบกำหนด ระบบจะชำระราคาดอกเบี้ยและเงินต้นโดยอัตโนมัติโดยที่คุณไม่ต้องดำเนินการใดๆ ด้วยตนเอง คุณสามารถตรวจสอบเวลาที่ชำระคืนโดยประมาณได้ที่ส่วน “เวลาที่ชำระคืนโดยประมาณ / Est. repayment time” สรุปปิดท้าย Bitget Smart Trend เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ Earn ที่เราชื่นชอบซึ่งมีรูปแบบ APR คล้ายกับผลิตภัณฑ์ Shark Fin แต่มีระดับการยอมรับความแม่นยำของราคาที่คุณคาดการณ์มากกว่า ด้วยกลยุทธ์ที่เรียบง่าย สามารถใช้เป็นเครื่องมือการ Hedge ที่ไว้ใจได้ต่อความผันผวนส่วนใหญ่ สมัครเลย แล้วเริ่มใช้งานผลิตภัณฑ์ทางการเงินอันหลากหลายของเราได้ที่ Bitget!

โหมด Hedge บน Bitget: กลยุทธ์ในการสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงกับโอกาส

เนื่องจากมีผู้คนเข้าร่วมในกระแสคริปโทเคอร์เรนซีกันมากขึ้น วิธีการเทรดคริปโทเคอร์เรนซี จึงมีความหลากหลายยิ่งมากขึ้น แนวคิดสำคัญอย่างหนึ่งที่นักลงทุนจำนวนมากจำเป็นต้องเข้าใจในเชิงลึกก็คือ “โหมด Hedge” โหมด Hedge เป็นกลยุทธ์การเทรดที่ให้นักลงทุนเปิด Long (Bullish) และ Short (Bearish) Position ในสินทรัพย์เดียวกันพร้อมกันได้ ความยืดหยุ่นนี้ทำให้นักลงทุนสามารถแสวงหาโอกาสในการทำกำไรในสภาวะตลาดที่หลากหลายได้ แทนที่จะพึ่งพาเทรนด์ตลาดเพียงเทรนด์เดียว ปัจจุบันการเทรด Futures บน Bitget ใช้โหมด Hedge เป็นค่าเริ่มต้น แต่นักลงทุนก็สามารถสลับไปมาระหว่างโหมด Hedge ที่เป็นค่าเริ่มต้นกับโหมด Hedge แบบใหม่ได้อย่างอิสระ ข้อดีและข้อเสียของโหมด Hedge สิ่งที่น่าดึงดูดใจของโหมด Hedge อยู่ที่ความสามารถในการให้เสถียรภาพระดับหนึ่งได้ในสภาวะตลาดที่หลากหลาย เมื่อตลาดผันผวนหรือไม่ชัดเจน การถือเพียง Position เดียวมักมาพร้อมความไม่แน่นอนเป็นอย่างมาก ในขณะที่โหมด Hedge สามารถบรรเทาความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง ช่วยให้นักลงทุนมีโอกาสทำกำไรได้ไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลงก็ตาม เช่น เมื่อคุณคาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์อาจผันผวนภายในช่วงหนึ่ง คุณก็สามารถเปิดทั้ง Long และ Short Position ได้ หากราคาขยับขึ้น Long Position ก็จะได้กำไร แต่หากขยับลง Short Position ก็จะช่วยชดเชยการขาดทุน แม้ว่าโหมด Hedge จะช่วยหลีกเลี่ยงการขาดทุนในตลาดขาขึ้นหรือขาลงฝั่งเดียวได้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความเสี่ยงโดยสิ้นเชิง ประการแรก นักลงทุนต้องประเมินตลาดให้แม่นยำและมีข้อมูลเชิงลึกที่เฉียบแหลม หากประเมินเทรนด์ตลาดผิดพลาด โหมด Hedge ก็อาจส่งผลให้เกิดการขาดทุน 2 ต่อได้ ประการที่ 2 ต้องใช้เงินทุนและต้นทุนธุรกรรมสูง การถือทั้ง Long และ Short Position หมายความว่าจะต้องมีเงินทุนมากขึ้น และค่าธรรมเนียมธุรกรรม ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย วิธีใช้โหมด Hedge อย่างมีประสิทธิภาพ เราจะใช้ Bitget Futures เป็นตัวอย่าง คุณสามารถสลับระหว่างโหมด One-Way กับ โหมด Hedge สำหรับ Bitget USDT-M Futures, Coin-M Futures และ USDC-M Futures ได้ การสลับนี้มีผลกับคู่เทรดทั้งหมดภายใต้ประเภท Futures ที่เกี่ยวข้อง เช่น เมื่อสลับ USDT-M Futures จากโหมด Hedge ไปเป็นโหมด One-Way จะส่งผลต่อคู่เทรดทั้งหมดภายใต้ USDT-M Futures แต่จะไม่ส่งผลต่อ Coin-M หรือ USDC-M Futures ในการใช้โหมด Hedge ให้ได้ประสิทธิผล นักลงทุนต้องโฟกัสไปที่องค์ประกอบสำคัญต่อไปนี้: 1. การวิเคราะห์ตลาดเชิงลึก: เข้าใจสินทรัพย์ที่ตนกำลังลงทุนอย่างรอบด้าน ซึ่งรวมไปถึงปัจจัยพื้นฐาน การวิเคราะห์ทางเทคนิค และความเชื่อมั่นของตลาด การผสานข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้เข้าด้วยกันจะช่วยให้นักลงทุนคาดการณ์เทรนด์ตลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นพื้นฐานที่มั่นคงในการตัดสินใจป้องกันความเสี่ยงอย่างมีข้อมูลครบถ้วน 2. การจัดสรรเงินทุนและการควบคุมความเสี่ยงอย่างเหมาะสม: กำหนดจุด Take Profit และ Stop Loss ให้เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนครั้งใหญ่อันเนื่องมาจากความผันผวนของตลาดที่มากเกินไป นักลงทุนควรปรับอัตราส่วน Position ของตนตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดเพื่อให้แน่ใจได้ว่าความเสี่ยงยังคงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ 3. การมีความยืดหยุ่นทางจิตใจที่แข็งแกร่ง: มีเหตุมีผลและคงความสงบอยู่เสมอ แม้ว่าโหมด Hedge อาจนำไปสู่แรงกดดันทางจิตใจได้ แต่นักลงทุนก็ควรใช้เหตุผลและสงบสติอารมณ์ หลีกเลี่ยงการถูกอารมณ์ของตลาดมาชักจูง บทสรุป โดยสรุป โหมด Hedge เป็นกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นซึ่งมอบโอกาสในการทำกำไรให้กับนักลงทุนได้มากขึ้น สามารถใช้เป็นกลยุทธ์แบบแยกเดี่ยวหรือผสมผสานกับกลยุทธ์อื่นๆ เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่มั่นคงยิ่งขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ได้รับข้อดีเหล่านี้ นักลงทุนยังต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน Bitget ยืนยันว่าการวิเคราะห์เชิงลึกของโหมด Hedge เผยให้เห็นว่ากลยุทธ์การเทรดนี้เป็นมากกว่าการซื้อและขายแบบธรรมดา แต่ต้องมีความเข้าใจตลาดอย่างถ่องแท้และตอบสนองอย่างยืดหยุ่นได้ ในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ มีเพียงนักลงทุนที่เรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่องเท่านั้นที่จะมองเห็นโอกาสท่ามกลางความผันผวนได้

แนะนำข้อมูล BGSOL: ซิมโฟนีแห่งการงอกเงยและนวัตกรรมสําหรับผู้ที่ชื่นชอบ Solana

ในภูมิทัศน์ที่ประสิทธิภาพและผลตอบแทนเป็นข้อกังวลหลัก BGSOL จึงนำเสนอโซลูชันที่ยืดหยุ่นและเป็นนวัตกรรมสำหรับผู้ถือ Solana (SOL) ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ของตน BGSOL พัฒนาขึ้นบนโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อถือได้ของ Bitget โดยผสมผสานความสะดวกสบายเข้ากับประสิทธิภาพเพื่อเปิดตัววิธีการที่ตรงไปตรงมาแต่ทรงพลังสำหรับผู้ใช้ Bitget ในการทำให้ยอดถือครอง SOL ของตนงอกเงย ไม่ว่าจะเป็นผลตอบแทนทันทีหรือการลงทุนระยะยาว BGSOL ก็ออกแบบมาเพื่อปลดล็อกศักยภาพของ SOL ของคุณอย่างเต็มที่โดยใช้ประโยชน์จากทั้งโอกาสในปัจจุบันและความเป็นไปได้ในอนาคต แนวทางที่ปรับแต่งมาอย่างประณีตให้ SOL งอกเงย BGSOL ของ Bitget ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมูลค่ายอดถือครอง SOL ของคุณผ่านการผสมผสานระหว่างระบบอัตโนมัติอัจฉริยะกับโมเดลรายได้หลายชั้น แนวทางอันเป็นเอกลักษณ์นี้ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับสมดุลที่ลงตัวระหว่างความเรียบง่ายกับประสิทธิภาพสูงเพื่อให้ SOL งอกเงยได้อย่างสม่ำเสมอ Restaking ง่ายดายในคลิกเดียว BGSOL มาพร้อมการลงทุนซ้ำในคลิกเดียวเพื่อทำให้กระบวนการที่โดยปกติแล้วซับซ้อนนั้นคล่องตัวยิ่งขึ้น ฟีเจอร์นี้ขจัดความจำเป็นในการดำเนินการ On-Chain ที่ซับซ้อนออกไป ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถนำ SOL ของตนไปลงทุนซ้ำได้โดยอัตโนมัติตลอดเวลา การใช้ BGSOL จะทำให้ยังคงนำสินทรัพย์ไปใช้สร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่องอยู่ โดยไม่จำเป็นต้องคอยมาดูแลด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง จึงช่วยให้คุณโฟกัสไปที่การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้มากขึ้น ขณะที่ยอดถือครองของคุณก็งอกเงยยิ่งขึ้นไปด้วย สิ่งที่ต้องทำมีดังนี้: ● ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบัญชี Bitget ของคุณมีโทเค็น SOL เพียงพอ ● คลิก [Stake] ในหน้าการ Stake BGSOL ● ป้อนจำนวนที่คุณต้องการ Stake แล้วกดยืนยัน เท่านี้ก็เรียบร้อย! เพิ่มผลตอบแทนให้สูงสุดผ่านโมเดลรายได้หลายชั้น BGSOL นำเสนอมากกว่าแนวทางทั่วไปในการทำให้สินทรัพย์งอกเงยโดยนำโมเดลรายได้หลายชั้นมาใช้ ซึ่งจะเพิ่มผลตอบแทนผ่านกลไกต่างๆ ด้วยการรวมแหล่งรายได้ต่างๆ เหล่านี้เข้าด้วยกัน BGSOL จึงทำให้มั่นใจได้ว่าทุกแง่มุมของกระบวนการในการทำให้สินทรัพย์งอกเงยนั้นจะช่วยเสริมซึ่งกันและกัน เพื่อให้คุณได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างกลไกการสร้างรายได้หลักของ BGSOL ได้แก่: ● รางวัล Liquid: BGSOL สามารถนำไป Stake เพื่อรับผลตอบแทนเป็นรางวัลเพิ่มเติมต่อยอดรางวัลจากการ Stake SOL ได้ วิธีการนี้ทำให้เป็นแนวทางแบบหลายชั้นที่ให้คุณเพิ่มผลตอบแทนของคุณได้ ความยืดหยุ่นนี้ทำให้แน่ใจได้ว่าคุณจะไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ใน Position ใด Position หนึ่ง จึงยังคงสามารถตอบสนองต่อโอกาสในตลาดได้ ● การเติบโตแบบทบต้น: ด้วย BGSOL ระบบจะนำรางวัลที่คุณได้จากการ Stake SOL ไปลงทุนซ้ำโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้จำนวนที่ Stake ทั้งหมดของคุณนั้นเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป กระบวนการนี้เพิ่ม Staking Power โดยรวมของยอดถือครองของคุณ เนื่องจากรางวัล SOL ที่สร้างใหม่จะมีการนำไป Restake อย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์คือรายได้จากการ Stake ของคุณจะงอกเงยขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยใช้ประโยชน์จากผลของการทบต้น ● MEV (Maximal Extractable Value): กลยุทธ์ MEV ใช้เพื่อเพิ่มรางวัลให้สูงสุดจากกิจกรรมบล็อกเชน เช่น การเรียงลำดับธุรกรรมใหม่หรือการจับโอกาสในการเก็งกำไร BGSOL ผสานการทำงานเทคนิคขั้นสูงเหล่านี้เข้าในระบบเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น Stake SOL ด้วย BGSOL ของ Bitget เพื่อรับผลตอบแทนสูงสุด BGSOL ทำงานอย่างไร BGSOL ให้นิยามใหม่กับความหมายของการ Stake SOL โดยผสานความยืดหยุ่นเข้ากับประสิทธิภาพในลักษณะที่ก้าวไปให้ไกลกว่าการ Stake แบบเดิมๆ เมื่อคุณ Stake SOL ผ่าน BGSOL คุณจะได้รับโทเค็น BGSOL กลับคืนมา ซึ่ง BGSOL ไม่เพียงสะท้อนถึง SOL เริ่มต้นของคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นรางวัลจากการ Stake ที่ทบต้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย หมายความว่าเมื่อมูลค่า BGSOL ของคุณเพิ่มขึ้น ผลตอบแทนของคุณก็มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย BGSOL ของ Bitget จะแปลงโฉมยอดถือครองที่ปกติแล้วอยู่นิ่งๆ ให้กลายไปเป็นสินทรัพย์ที่เพิ่มมูลค่าอย่างต่อเนื่องในลักษณะที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ผลตอบแทนแบบไดนามิกและอัตราการแปลงที่ปรับไปตามสภาวะ ผลตอบแทนของ BGSOL ไม่ใช่แบบคงที่ แต่จะปรับไปตามปัจจัยหลายประการภายในระบบนิเวศ Solana โดย APR อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด, ประสิทธิภาพของ Validator และการมีส่วนร่วมในการ Stake บนเครือข่าย Solana Bitget ให้ข้อมูล APR แบบอัปเดตล่าสุดเป็นนาทีเพื่อช่วยให้คุณทราบข้อมูลเกี่ยวกับผลตอบแทนที่คุณสะสมได้อยู่เสมอ นอกจากนี้ คุณจะสังเกตเห็นว่าอัตราแลกเปลี่ยนระหว่าง BGSOL กับ SOL นั้นจะอัปเดตเป็นระยะๆ โดยทั่วไปทุกๆ 2-3 วัน เนื่องจากอัตรานี้สะท้อนถึงรางวัลทบต้นที่สะสมได้ ซึ่งหมายความว่า เมื่อเวลาผ่านไป 1 BGSOL จะกลายเป็นมีมูลค่ามากกว่า 1 SOL ความงดงามของ BGSOL นั้นอยู่ที่ผลของการทบต้นนี้ ซึ่งไม่เพียงจะเพิ่ม Staking Power ของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดได้อยู่เสมออีกด้วย คุณสามารถตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันและอัปเดตรางวัลได้โดยตรงในหน้าการ Stake บน Bitget เพื่อให้ดูได้อย่างชัดเจนว่า BGSOL ของคุณเพิ่มมูลค่าขึ้นแค่ไหนในช่วงเวลาที่ผ่านไป สภาพคล่องที่ลื่นไหล Bitget ให้ความสำคัญกับสภาพคล่องและ BGSOL ก็ด้วยเช่นกัน เมื่อคุณพร้อมที่จะ Redeem แล้ว BGSOL ก็ให้ความยืดหยุ่นกับคุณในการแปลงกลับมาเป็น SOL ในเวลาใดก็ได้ ไม่ว่าจะบางส่วนหรือทั้งหมด ไม่จำกัดจำนวนครั้งในการ Redeem สามารถดำเนินการได้ตามที่คุณต้องการ! ในระหว่างการ Redeem นั้นจะไม่มีการสะสมรางวัลสำหรับส่วนที่แปลง แต่โทเค็น BGSOL ที่เหลืออยู่จะยังคงงอกเงยขึ้นต่อไป ซึ่งตอกย้ำถึงสถานะของ BGSOL ในการเป็นสินทรัพย์ทรงพลังสำหรับทั้งผู้ Stake และนักเทรดที่แอคทีฟ มีคำเตือนเล็กน้อยที่ควรทราบ โปรดวางแผนเผื่อเวลาในการประมวลผลสูงสุดถึง 4 วันเพื่อให้ SOL ที่ส่งคืนนั้นเข้าบัญชีของคุณหลังจากที่คุณส่งคำขอการ Redeem นอกจากนี้ยังสามารถโอนหรือขาย BGSOL ของคุณได้ตลอดเวลาอีกด้วย โดย SOL ที่คุณ Stake ไว้นั้น รวมถึงรางวัลที่เกี่ยวข้อง ก็จะถูกโอนไปยังผู้ถือคนใหม่ด้วย ซึ่งจะมีผลกับทั้งรางวัลที่สะสมมาจนถึงขณะนั้น ตลอดจนรางวัลในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับ BGSOL ด้วย ผลลัพธ์ก็คือหากคุณเลือกที่จะปรับยอดถือครองของคุณ คุณจะไม่ถูกจำกัดใดๆ BGSOL ให้คุณมีอิสระในการตอบสนองต่อโอกาสใหม่ๆ ปรับสมดุลพอร์ต หรือเข้าถึงสภาพคล่องเมื่อใดก็ได้ตามที่คุณต้องการ ความยืดหยุ่นในระดับนี้ไม่เพียงจะให้ความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับ BGSOL เองได้อีกด้วย มีความยืดหยุ่นทางการเงินยิ่งขึ้นและมีศักยภาพในการรับผลตอบแทนบน Bitget มากขึ้น BGSOL ให้ผู้ถือ SOL มีความยืดหยุ่นยิ่งขึ้นและมีศักยภาพในการรับผลตอบแทนมากขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศ Bitget Web3 ที่มีหลากหลายแง่มุม ในภายหลัง BGSOL จะนำไปเทรดเป็นตัวเลือก Margin สำหรับการเทรด Margin บน Bitget ได้ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ถือ SOL ในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเงินทุนของตนจากการที่สามารถนำ BGSOL ไปใช้เป็นหลักประกันสำหรับคู่เทรดที่เกี่ยวข้องได้ ด้วยการใช้ BGSOL เป็น Margin คุณสามารถขยาย Position การเทรดของคุณได้ รวมถึง Hedge ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น หรือใช้ประโยชน์จากโอกาสในตลาดได้ ขณะเดียวกันก็ยังคงได้รับรางวัลที่สร้างขึ้นจาก SOL ที่คุณ Stake ไว้ ฟีเจอร์นี้เป็นตัวอย่างที่ BGSOL นั้นผสานการทำงานของการ Stake เข้ากับการเทรด ซึ่งทำให้เป็นสินทรัพย์ที่มีความอเนกประสงค์สำหรับทั้งนักลงทุนระยะยาวและนักเทรดที่แอคทีฟ Bitget เสริมความแข็งแกร่งให้กับการขยายตัวของ Solana และเปิดตัวโอกาสด้าน DeFi ในขณะที่เครือข่าย Solana ขยายตัว Bitget ก็มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเติบโตนี้และวางตำแหน่ง BGSOL ให้สามารถใช้งานในระบบนิเวศการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ได้ทันที การผสมผสานนี้ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์อย่างมากจากขีดความสามารถในการขยายการรองรับของ Solana สนับสนุนอนาคตของ Solana ด้วย AVS (Actively Validated Services) BGSOL วางตำแหน่งทางกลยุทธ์ให้ใช้ประโยชน์จาก AVS (Actively Validated Services) ซึ่งเป็นระบบแบบกระจายศูนย์ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้สินทรัพย์ผ่าน Validator หลายราย สิ่งที่ทำให้แตกต่างจากโมเดลการ Stake แบบเดิมๆ ก็คือ AVS นั้นช่วยให้สามารถ Restake ได้แบบไดนามิกและมีการตรวจสอบความถูกต้องแบบกระจายศูนย์เพื่อให้ผู้ใช้ Solana ได้มีระบบนิเวศการ Stake ที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยการใช้ AVS นั้น ผู้ถือ BGSOL ไม่เพียงสนับสนุนความปลอดภัยโดยรวมของ Solana เท่านั้น แต่ยังได้รับผลประโยชน์จากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย AVS อำนวยความสะดวกให้กับ Liquid Restaking ช่วยให้นำโทเค็นที่ Stake ไว้ไปใช้ได้ทั่วทั้งระบบนิเวศ Solana DeFi โดยที่ยังคงได้รับรางวัลจากการ Stake อยู่ การผสานการทำงาน AVS เข้ากับ BGSOL ช่วยให้ผู้ใช้รักษาสภาพคล่องและความยืดหยุ่นในขณะที่เข้าร่วมในกิจกรรมการ Stake ได้อยู่ ซึ่งเปิดโอกาสมากมายให้กับการเสนอโทเค็นและแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (DApp) ใหม่ๆ นอกจากนี้ AVS ยังเลือกเฉพาะ Node Operator ประสิทธิภาพสูงเท่านั้น ซึ่งช่วยให้ผู้ถือ BGSOL สามารถใช้ประโยชน์จากความปลอดภัยและประสิทธิภาพระดับสูงสุดในการทำธุรกรรมของตนได้ ผู้ใช้จะสามารถเพลิดเพลินไปกับการโอนที่เร็วขึ้นและเชื่อถือได้มากขึ้น และในเวลาเดียวกันก็ยังสามารถมีส่วนร่วมในการเติบโตและความสามารถในการขยายการรองรับของเครือข่าย Solana ได้อีกด้วย ปลดล็อกโอกาสในระบบนิเวศ DeFi ในวงกว้าง BGSOL กำลังมุ่งหน้าสู่การเป็นสินทรัพย์ที่มีความอเนกประสงค์ภายในภูมิทัศน์การเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ในวงกว้าง นำเสนออรรถประโยชน์เพิ่มเติมนอกเหนือจากการ Stake โดย BGSOL นี้จะพร้อมสำหรับการผสานการทำงานเข้ากับแอปพลิเคชัน DeFi ต่างๆ ซึ่งรวมไปถึง Liquidity Pool, แพลตฟอร์มการให้กู้ยืม และโปรโตคอล Yield Farming ในอนาคต สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายได้โดยการจัดหาสภาพคล่อง ใช้ BGSOL เป็นหลักประกัน และเข้าร่วมในฟังก์ชัน DeFi ขั้นสูง ในขณะที่ Bitget ยังคงขยายฐานการดำเนินงานในพื้นที่ Web3 และ DeFi ต่อไป บทบาทของ BGSOL ก็จะเติบโตขึ้นด้วย โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้มีทางเลือกมากขึ้นในการใช้ประโยชน์จากยอดถือครองของตนและเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินของตน ความลงตัวที่สมบูรณ์แบบระหว่างความเรียบง่ายกับนวัตกรรม BGSOL สะท้อนถึงความสมดุลระหว่างความสะดวกในการใช้งานกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ด้วยกระบวนการที่ราบรื่นไม่มีสะดุดสำหรับการทำให้สินทรัพย์งอกเงย BGSOL มอบทั้งความเรียบง่ายและนวัตกรรมที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จในการลงทุนระยะยาว ไม่ว่าคุณกำลังมองหาผลตอบแทนที่มั่นคงหรือสำรวจอนาคตของการเงินแบบกระจายศูนย์ BGSOL ก็ทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีแนวทางที่ครอบคลุมที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินของคุณ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Solana นั้น BGSOL ไม่เพียงให้โอกาสในการทำให้สินทรัพย์งอกเงยเท่านั้น แต่ยังมอบประสบการณ์ที่ใช้งานง่ายและเฉพาะทาง โดยแต่ละชั้นของกระบวนการนั้นออกแบบมาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อยอดถือครองของคุณ ตั้งแต่สิทธิพิเศษในการเข้าถึงโปรเจกต์ใหม่ๆ ไปจนถึงความสามารถในการใช้ยอดถือครอง SOL เป็นหลักประกัน BGSOL ปลดล็อกอนาคตแห่งความสำเร็จทั้งในทันทีและในระยะยาวในโลกการเงินดิจิทัล ส่วนที่ดีที่สุดก็คือ สินทรัพย์อื่นๆ ที่คล้ายกับ BGSOL ก็กำลังจะมาถึง Bitget เร็วๆ นี้ ดังนั้นโปรดติดตามอย่างใกล้ชิด และในระหว่างนี้อย่าลืม Stake BGSOL!

คู่มือสำหรับมือใหม่ Bitget — แนะนำข้อมูลฉบับสมบูรณ์สำหรับ USDT-M Futures, USDC-M Futures และ Coin-M Futures

ภาพรวม ● การเทรด Futures ประเภทหลักๆ มีอะไรบ้าง แต่ละอย่างแตกต่างกันอย่างไร ● วิเคราะห์แนวคิดใน USDT-M Perpetual Futures, USDC-M Perpetual Futures, Coin-M Perpetual Futures และ Coin-M Delivery Futures ● การเทรด Futures ประเภทใดเหมาะสำหรับมือใหม่ ประเภทการเทรด Futures การเทรด Futures ในโลกคริปโตมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทหลักๆ คือ USDT-M/USDC-M Futures และ Coin-M Futures บน Bitget สามารถเทรดได้ทั้ง USDT-M/USDC-M Futures , Coin-M Futures และ Delivery Futures การเทรด USDT-M/USDC-M Futures หรือที่เรียกกันว่า Forward Futures หมายถึง Futures ที่ชำระราคาเป็น Stablecoin เช่น USDT และ USDC ตัวอย่างของ Futures ดังกล่าวได้แก่ BTCUSDT และ ETHUSDC (สังเกตได้จากสกุลเงินอ้างอิงที่เป็น Stablecoin) ในทางกลับกัน Coin-M Futures หรือที่เรียกกันว่า Inverse Futures หมายถึง Futures ที่ชำระราคาเป็นคริปโต เช่น BTCUSD และ ETHUSD ประเด็นที่ควรทราบคือ USDT-M/USDC-M Futures สามารถเรียกอีกอย่างได้ว่า USDT-M/USDC-M Perpetual Futures ซึ่งไม่มีการหมดอายุตามชื่อ ในทางตรงกันข้าม Coin-M Futures แบ่งออกได้เป็น Coin-M Perpetual Futures และ Coin-M Delivery Futures ซึ่งอย่างหลังจะมีระยะเวลาการส่งมอบ นักลงทุนควรแยกแยะประเภทของ Futures ที่ตนเทรดให้ชัดเจน เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับมือใหม่ บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับประเภท Futures เหล่านี้ รวมถึงสรุปข้อดีและข้อเสียให้เห็น ความแตกต่าง USDT-M/USDC-M Futures (Forward Futures) Coin-M Futures Perpetual Futures (Inverse Futures) Coin-M Futures Delivery Futures (Inverse Futures) สกุลเงินอ้างอิง โดยปกติแล้วจะเป็น Stablecoin เช่น USDT และ USDC โดยปกติแล้วจะเป็น Bitcoin หรือคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ โดยปกติแล้วจะเป็น Bitcoin หรือคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ คู่เทรดทั่วไป BTCUSDT, ETHUSDC BTCUSD, ETHUSD BTCUSD0628, ETH0927 มูลค่าของสัญญา เป็น Fiat เป็นคริปโต เป็นคริปโต วันหมดอายุ ไม่มี ไม่มี มี ค่าธรรมเนียมธุรกรรม Funding Rate Funding Rate ค่าธรรมเนียมการส่งมอบ ลักษณะของ Futures PNL เข้าใจง่าย จำเป็นต้องแปลง PNL จำเป็นต้องแปลง PNL ผู้ใช้ที่เหมาะสม มือใหม่ มือใหม่/ผู้เชี่ยวชาญ ผู้เชี่ยวชาญ USDT-M/USDC-M Futures (Perpetual) USDT-M/USDC-M Futures หรือที่รู้จักกันในชื่อ Forward Futures เป็น Futures ที่อิง Fiat Stablecoin (ปกติแล้วเป็น USDT หรือ USDC) ใน USDT-M/USDC-M Futures มูลค่าของสัญญาจะคำนวณเป็น USD โดย Futures เหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินมูลค่าและความเสี่ยงของสัญญาได้ง่ายขึ้น นักลงทุนสามารถเทรดคริปโทเคอร์เรนซีได้โดยตรงกับ Stablecoin เช่น USDT และ USDC โดยไม่ต้องซื้อ Bitcoin หรือคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ แบบจริงๆ ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ราคาจะลดลงในเหรียญเหล่านี้ได้ USDT-M/USDC-M Futures เหมาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเทรด Futures ลองดู BTCUSDT Perpetual Futures เป็นตัวอย่าง หากผู้ใช้ถือ 1 BTCUSDT และราคา BTC ปรับตัวขึ้น $1,000 ผู้ใช้จะทำกำไรได้ $1,000 แต่หากปรับตัวลง $1,000 ก็จะขาดทุน $1,000 สำหรับ USDT-M/USDC-M Futures นั้นจะชำระราคาเป็น USDT หรือ USDC เสมอ รวมถึงคำนวณ Margin และ PNL ทั้งหมดเป็น USDT หรือ USDC เช่นกัน Bitget ให้บริการ USDT-M Perpetual Futures และ USDC-M Perpetual Futures ในที่นี้ “Perpetual” หมายถึงระยะเวลาของสัญญา สรุปโดยง่ายคือ Perpetual Futures ไม่มีวันหมดอายุและสามารถถือไว้ได้จนกว่าผู้ใช้เลือกที่จะปิด Position จึงทำให้ผู้ใช้เทรดได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องวันหมดอายุ Perpetual Futures ใช้ Funding Rate เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา โดย Funding Rate นั้นสามารถเข้าใจได้ง่ายๆ ว่าเป็นดอกเบี้ยที่ชำระให้กับการกู้ยืมสินทรัพย์จากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนเพื่อนำมาเปิด Futures Position ในฐานะที่เป็นผลิตภัณฑ์กระแสหลักในผลิตภัณฑ์การเทรด Futures คริปโต USDT-M/USDC-M Perpetual Futures จึงมีปริมาณการเทรดที่สูงกว่า Futures ประเภทอื่นๆ มาก วิธีการเทรด Bitget Futures ออกแบบให้เรียบง่ายและตรงไปตรงมา เพียงเข้าสู่ระบบในเว็บไซต์ Bitget แล้วคลิกที่ “Futu res ” ในแถบเมนูหลักเพื่อเทรด BTCUSDT Perpetual Futures Bitget นำเสนอผลิตภัณฑ์ USDT-M Futures ที่หลากหลาย หากต้องการเทรดคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ เพียงคลิกลูกศรทางด้านขวามือของ BTCUSDT แล้วเลือก Futures ที่คุณต้องการเทรด หากต้องการเทรด USDC-M Perpetual Futures เพียงไปที่หน้า USDC-M Futures จากด้านขวาของแถบเมนู สำหรับแอป สามารถใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น หลังจากเปิดแอปแล้ว ให้แตะ “เทรด / Trade” ในแถบเมนูหลักที่ด้านล่าง แล้วเลือก “Futures ” จากนั้น เข้าสู่หน้าสำหรับ BTCUSDT Perpetual Futures ในทำนองเดียวกัน คุณสามารถแตะลูกศรทางด้านขวาของ BTCUSDT แล้วเลือก Futures ที่ต้องการเทรดได้ หากต้องการเทรด USDC-M Perpetual Futures เพียงแตะ “USDC-M” ที่ด้านบนของหน้า ดูเพิ่มเติม: วิธีทำการเทรด Futures ครั้งแรก Coin-M Perpetual Futures และ Coin-M Delivery Futures Coin-M Futures หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Inverse Futures เป็น Futures ที่อิงคริปโทเคอร์เรนซี ใน Coin-M Futures นั้น มูลค่าของสัญญาจะคำนวณเป็นคริปโทเคอร์เรนซี โดย Futures ประเภทนี้ช่วยให้นักลงทุนมีส่วนร่วมในตลาดได้โดยตรงด้วยคริปโต ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่พลาดการปรับตัวขึ้นของราคาที่อาจพลาดได้หากใช้ Stablecoin แทน Coin-M Futures แบ่งออกได้เป็น Coin-M Perpetual Futures และ Coin-M Delivery Futures สำหรับ Coin-M Perpetual Futures นั้นจะคล้ายกับ USDT-M Perpetual Futures โดยต่างกันตรงที่ Coin-M Futures จะคำนวณมูลค่าเป็นคริปโทเคอร์เรนซี แม้ว่า Coin-M Perpetual และ USDT-M Perpetual Futures จะถือไว้ได้โดยไม่มีวันหมดอายุ แต่ Coin-M Delivery Futures จะแตกต่างออกไปในแง่ของกรอบเวลา Delivery Futures มาพร้อมกับวันหมดอายุที่มีระบุไว้ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้จำเป็นต้องส่งมอบสินทรัพย์ตามจำนวนที่ระบุ ณ วันที่ในอนาคตที่ระบุไว้ โดยทั่วไปวันที่ส่งมอบจะกำหนดไว้ล่วงหน้า ผู้ถือสัญญา Futures เหล่านี้ต้องปฏิบัติตามภาระผูกพันในการส่งมอบตามสัญญา ณ วันที่ส่งมอบ ลองดู BTCUSD0628 Delivery Futures เป็นตัวอย่าง ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงที่จะเทรดสัญญากัน ณ ราคาส่งมอบวันที่ 28 มิถุนายน 2024 เวลา 15:00 น. (เวลาไทย) สมมติว่าราคาส่งมอบอยู่ที่ $70,000 ผู้ขายขาย 5 BTC ที่ราคา $70,000 และผู้ซื้อซื้อ 5 BTC ที่ราคา $70,000 แน่นอนว่าผู้ซื้อหรือผู้ขายสามารถเลือกปิด Position ของตนก่อนวันที่ส่งมอบในราคาปัจจุบันได้ สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการส่งมอบจะเป็นการชำระราคาของสัญญา ไม่ว่าคุณจะขาดทุนหรือกำไร แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนจะปิดและชำระราคา Position ณ เวลาที่ได้ตกลงกันไว้ (เวลาส่งมอบ) โดยทั่วไป Coin-M Futures เหมาะสำหรับนักขุดหรือผู้ถือระยะยาว เนื่องจาก Futures ชำระราคาด้วยคริปโทเคอร์เรนซีอ้างอิง จึงทำให้ผลกำไรจะส่งผลต่อการถือครองระยะยาว และมูลค่าหลักประกันของคุณจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยในช่วงตลาดกระทิง นอกจากนี้ คุณยังสามารถ Hedge Position ของคุณในตลาด Futures ได้ ในการ Hedge Position นั้น เพียงเปิด Short Position ใน Bitget Coin-M Futures ตัวใดก็ได้ หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงปรับตัวลง กำไรของ Futures Position จะไปชดเชยการขาดทุนในพอร์ตของคุณได้ วิธีการเทรด เข้าสู่ระบบเว็บไซต์ Bitget และคลิก “Futures” ในแถบเมนูหลัก จากนั้นคลิก “การเทรด Futures / Futures Trading” ที่มุมขวาบนของหน้าการเทรด Futures แล้วเลือก Coin-M Perpetual Futures หรือ Coin-M Delivery Futures หรืออีกวิธีตามภาพด้านล่าง คุณยังสามารถคลิกลูกศรทางด้านขวามือของคู่เทรดได้ แล้วเลือก “Coin-M Futures” จากนั้นคลิก “ทั้งหมด / All” ทางด้านขวา และเลือก “Perpetual” หรือ “Delivery” สำหรับผู้ใช้แอป คุณสามารถแตะ “เทรด / Trade” ในแถบเมนูหลักที่ด้านล่าง แล้วเลือก “Futures” ได้ เมื่อเข้ามาในหน้าเทรดสำหรับ BTCUSDT Perpetual Futures แล้ว ให้แตะ “Coin-M” ที่ด้านบน จากนั้นเลือก “Perpetual” หรือ “Delivery” โดยแตะที่ลูกศรทางด้านขวามือของ BTCUSDT ดูเพิ่มเติม: วิธีทำการเทรด Futures ครั้งแรก บทสรุป สำหรับมือใหม่ การตัดสินใจเลือกระหว่าง USDT-M/USDC-M Futures กับ Coin-M Futures นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดโดยรวมด้วย เช่น USDT-M/USDC-M Futures สามารถลดความเสี่ยงจากการเหวี่ยงตัวอย่างรุนแรงของราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพในตลาดที่ผันผวน เมื่อเปรียบเทียบกับ Coin-M Futures แล้ว จะเห็นได้ว่า USDT-M/USDC-M Futures สามารถลดความเสี่ยงจากความผันผวนหนักของราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง นี่เป็นเพราะว่า USDT-M Futures มีราคาและชำระราคาเป็น USDT และราคาของ Stablecoin เหล่านี้มักมีความเสถียรมากกว่าของคริปโทเคอร์เรนซี ในช่วงที่ราคามีความผันผวนสูง สกุลเงินที่ใช้ชำระราคาของ USDT-M/USDC-M Futures จะสร้างความเสถียรให้กับมูลค่าสัญญา จึงช่วยลดความเสี่ยงให้กับนักลงทุนได้ นอกจากนี้ สกุลเงินที่ใช้ชำระราคาของ USDT-M/USDC-M Futures ยังทำให้เทรดได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เช่น มูลค่าของ 1 USDT เกือบจะเท่ากับ 1 USD ทำให้นักลงทุนสามารถคำนวณผลกำไรหรือขาดทุนของตนได้ง่ายขึ้น USDT-M/USDC-M Futures เสนอราคาและชำระราคากันในสกุลเงินที่ใช้ชำระราคาทั่วไป (เช่น USDT) จึงทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการเทรด นอกจากนี้ สัญญา Futures หลายสัญญาสามารถใช้สกุลเงินที่ใช้ชำระราคาเดียวกันได้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องซื้อโทเค็นที่เป็นสกุลเงินหลักไว้เป็น Margin สำหรับ Futures Position จึงช่วยลดต้นทุนได้ โปรดทราบว่าเมื่อเปิด Long นั้น แม้ USDT-M และ USDC-M Futures จะให้ผลกำไรน้อยกว่า Coin-M Futures แต่ก็มีความเสี่ยงน้อยกว่า ในทางกลับกันเมื่อเปิด Short แม้ USDT-M และ USDC-M Futures จะให้ผลกำไรมากกว่า Coin-M Futures แต่ก็มีความเสี่ยงมากกว่า สรุปแล้ว USDT-M/USDC-M Futures และ Coin-M Futures ต่างก็มีข้อดีและลักษณะเฉพาะเป็นของตัวเอง นักลงทุนควรเลือกประเภท Futures ที่เหมาะที่สุดกับระดับความเสี่ยงที่ตนยอมรับได้และวัตถุประสงค์ในการลงทุนของตน

คู่มือสำหรับมือใหม่ Bitget: วิธีทำการเทรด Futures ครั้งแรก

ภาพรวม ● คู่มือสำหรับมือใหม่ฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อช่วยคุณในการทำการเทรด Futures ครั้งแรก โดยใช้ USDT-M Futures เป็นตัวอย่าง ● ก่อนเริ่มเส้นทางนี้ ต้องมั่นใจก่อนว่าคุณได้ทำความคุ้นเคยกับแนวคิดที่กล่าวถึงในบทความแล้ว รวมถึงเข้าใจในกระบวนการเทรด Futures พร้อมทั้งความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นแล้ว ● Bitget ขอแนะนำอย่างยิ่งให้มือใหม่ในการเทรด Futures เริ่มต้นด้วยเงินจำนวนเล็กน้อยในการเทรดครั้งแรก วิธีนี้ช่วยให้เข้าใจในคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ได้ดียิ่งขึ้น ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ Futures เป็นรูปแบบหนึ่งของอนุพันธ์ที่สามารถเพิ่มทั้งผลกำไรและขาดทุนของคุณได้ จึงมีความแตกต่างจากการเทรด Spot ทั่วไป เราเข้าใจดีว่าบางแง่มุมของการเทรด Futures อาจทำให้เกิดความสับสนได้ ดังนั้นโปรดศึกษาข้อมูลในแต่ละส่วนอย่างละเอียดก่อนที่จะลงมือเทรด Futures การโอนสินทรัพย์ไปยังบัญชี Futures ของคุณ ขั้นแรก มาเริ่มด้วยบัญชีประเภทต่างๆ กันก่อน เมื่อคุณทำการฝาก ครั้งแรก โดยปกติแล้วสินทรัพย์จะไปปรากฏอยู่ในบัญชี Spot ของคุณ อย่างไรก็ตาม หากต้องการเริ่มเทรด Futures คุณจะต้องทำการโอนสินทรัพย์ก่อน Bitget มีบัญชีหลายประเภทให้บริการ ซึ่งรวมไปถึงบัญชี Funding, Spot และ Futures ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้จัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อฝากสินทรัพย์เข้าบัญชี Bitget สินทรัพย์นั้นจะเข้าไปยังบัญชี Spot ก่อน หากคุณต้องการเริ่มเทรด Futures ก็จะต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อโอนสินทรัพย์จากบัญชี Spot ไปยังบัญชี Futures ของคุณ แอป: ขั้นตอนที่ 1: แตะที่ “สินทรัพย์ / Assets” ที่มุมขวาล่างของหน้าจอ จากนั้นเลือก “โอน / Transfer” เพื่อย้ายสินทรัพย์จากบัญชี Spot ไปยังบัญชี Futures ของคุณ โดยเมื่อทำการโอน จะต้องเลือกประเภท Futures ด้วย เนื่องจาก Bitget มีทั้ง USDT-M, USDC-M Futures และ Coin-M Perpetual/Delivery Futures สำหรับคู่มือนี้ เราจะเน้นไปที่ USDT-M Futures ของ Bitget ขั้นตอนที่ 2: Futures แต่ละประเภทต้องใช้คริปโทเคอร์เรนซีตามที่กำหนดเป็น Margin สำหรับ Bitget นั้น USDT-M Futures ต้องใช้ USDT Stablecoin, USDC-M Futures ต้องใช้ USDC Stablecoin และ Coin-M Futures ต้องใช้คริปโทเคอร์เรนซี เช่น BTC และ ETH เลือกตัวเลือกการเพิ่มเงินทุนให้ตรงกับประเภท จากนั้นป้อนจำนวนที่ต้องการโอนไปยังบัญชี Futures ของคุณ แล้วแตะ “ยืนยัน / Confirm” ขั้นตอนที่ 3: กลับไปยังหน้าแรกของแอป แล้วแตะ “เทรด / Trade” ในแถบเมนูหลักด้านล่าง จากนั้นแตะ “เทรด / Trade” อีกครั้ง และเลือก Futures หลังจากทำตามขั้นตอนทั้ง 3 ขั้นตอนนี้แล้ว คุณก็จะเข้าสู่หน้าการเทรด Futures อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งวาง Order ในทันที แม้ว่าหน้าการเทรด Futures จะใช้งานง่าย แต่มือใหม่ควรใช้เวลาในการทำความเข้าใจตัวเลือก พารามิเตอร์ และแนวคิดของการเทรด Futures ต่างๆ เสียก่อน เมื่อเข้าใจพื้นฐานแล้ว คุณก็พร้อมสำหรับการเทรด Futures เว็บไซต์: ขั้นตอนบนเว็บไซต์ Bitget จะคล้ายคลึงกับขั้นตอนในแอป โดยต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในเรื่องตำแหน่งของปุ่มต่างๆ จากการออกแบบหน้าเพจ หากต้องการเทรด Futures บนเว็บไซต์ Bitget คุณจะต้องโอนสินทรัพย์จากบัญชีเงินทุนไปยังบัญชี Futures ของคุณด้วยเช่นกัน เพียงคลิกไอคอน [Wallet] ที่มุมขวาบน จากนั้นเลือก “โอน / Transfer” โดยในหน้า “โอน / Transfer” ให้เลือกประเภท Futures, คริปโทเคอร์เรนซี และป้อนจำนวนที่โอน กระบวนการนี้แสดงไว้ดังภาพด้านล่าง: เริ่มต้นกับการเทรด Futures เมื่อคุณมีสินทรัพย์ในบัญชี Futures เรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มต้นเทรดได้เลย ด้านล่างนี้คือคู่มือแบบละเอียดเกี่ยวกับการวาง Order แรกในการเทรด Futures ของคุณ: แอป: ขั้นตอนที่ 1: เลือกคู่เทรด Futures ที่ต้องการ เมื่อเข้าสู่หน้าการเทรด Futures แล้ว Bitget จะแสดง “BTCUSDT Perpetual” ที่มุมซ้ายบนเป็นค่าเริ่มต้น คุณสามารถแตะที่คู่นี้เพื่อเลือกคู่เทรดอื่นๆ ได้ เช่น ETHUSDT, SOLUSDT และอื่นๆ ขั้นตอนที่ 2: เลือกโหมด Cross หรือ Isolated Margin นี่เป็นขั้นตอนสำคัญในการเทรด Futures คุณสามารถดูคำอธิบายเกี่ยวกับโหมด Cross และ Isolated Margin ได้เมื่อคลิกที่โหมด Margin โปรดทราบว่าหากเลือกโหมด Cross Margin ระบบจะนำสินทรัพย์ที่ใช้ได้ในบัญชี Futures ของคุณมาใช้ในการเทรดทั้งหมด หากต้องการติดตามความเสี่ยงในรายการเทรดต่างๆ อย่างใกล้ชิด ควรเปลี่ยนไปใช้โหมด Isolated Margin เนื่องจากในโหมดนี้ การขาดทุนสูงสุดจะจำกัดอยู่ที่สินทรัพย์ที่ใช้ได้ในบัญชี Isolated Margin กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ Cross Margin เป็นแนวทางแบบ “All-In” ในขณะที่ Isolated Margin เป็นกลยุทธ์ที่ค่อนข้างปลอดภัยกว่า ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่าเลเวอเรจ ที่ด้านขวาของ Cross/Isolated Margin คุณจะเห็นไอคอน 10X เมื่อคลิก จะสามารถเลือกระดับเลเวอเรจที่ต้องการได้ เช่น BTCUSDT Futures จะมีเลเวอเรจขั้นต่ำคือ 1X และสูงสุดคือ 125X หากคุณเพิ่งเริ่มเทรด Futures ขอแนะนำให้ใช้เลเวอเรจไม่เกิน 10X ขั้นตอนที่ 4: เลือกประเภท Order เนื่องจากนี่เป็นการเทรดครั้งแรกของคุณและคุณไม่ได้มี Position ใดๆ เปิดไว้ จึงทำได้เพียงเปิด Position ใหม่เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ภายใน Limit Order นั้นมีหลายตัวเลือกที่จะเป็นตัวกำหนดต้นทุนและจังหวะการซื้อของคุณ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด Futures Bitget มี 5 โหมดสำหรับ Order ให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้ ได้แก่ Limit Order, Limit Order ขั้นสูง, Market Order, Trigger Order และ Trailing Stop Loss ในที่นี้เราจะแนะนำข้อมูลประเภท Order ง่ายๆ ทั่วไป 3 ประเภทสำหรับมือใหม่ ● Limit Order: เมื่อคุณเลือก Limit Order ราคาของคู่นั้นจะแสดงด้านล่างโดยอัตโนมัติ คุณเพียงป้อนจำนวนคริปโทเคอร์เรนซีที่ต้องการจะซื้อหรือขาย ระบบจะวาง Limit Order ไว้ใน Order Book ณ ราคา Limit ที่ระบุซึ่งคุณเป็นผู้กำหนด โดยจะดำเนินการ Order ก็ต่อเมื่อราคาตลาดมาถึงหรือสูงกว่าราคา Bid/Ask ณ ขณะนั้นเท่านั้น Limit Order ช่วยให้ผู้ใช้ซื้อได้ในราคาต่ำกว่าหรือขายได้ในราคาสูงกว่าราคาตลาด ณ ขณะนั้น ซึ่งจะต่างจาก Market Order ที่ดำเนินการทันที ณ ราคาตลาด ณ ขณะนั้น โดยจะมีการวาง Limit Order ไว้ใน Order Book และจะถูกทริกเกอร์เมื่อราคามาถึงแล้วเท่านั้น ● Market Order: นี่คือโหมด “ขี้เกียจ” ซึ่งระบบจะเลือกราคาที่ดีที่สุดที่มีอยู่ให้เพื่อดำเนินการ Order หาก Order ดำเนินการไปบางส่วนหรือไม่ได้ดำเนินการ ระบบจะดำเนินการต่อไป ณ ราคาที่ดีที่สุดราคาถัดไป ● Trigger Order: ผู้ใช้บางคนต้องการซื้อหรือขายคริปโทเคอร์เรนซีเฉพาะเมื่อมาถึงจุดราคาที่กำหนดเท่านั้น Trigger Order จึงตอบโจทย์นี้ด้วยการวาง Order ในปริมาณและราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งจะถูกทริกเกอร์เมื่อราคาตลาดมาถึงราคาทริกเกอร์เท่านั้น ระบบจะไม่ระงับสินทรัพย์เอาไว้ก่อนที่จะมีการทริกเกอร์ Order สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ Trigger Order นั้นค่อนข้างคล้ายกับ Limit Order แต่ Limit Order จะเกี่ยวข้องกับราคาที่ระบบกำหนด ในขณะที่ Trigger Order ต้องให้คุณเองป้อนข้อมูลเข้ามา ขั้นตอนที่ 5: ตั้งค่า Take Profit/Stop Loss และวาง Order ซื้อ/ขาย Bitget ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ผู้ใช้ใหม่ตั้งค่า Stop Loss หรือ Take Profit เมื่อทำการเทรด Futures เป็นครั้งแรก สิ่งนี้จะช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้นและเข้าใจผลกระทบที่เลเวอเรจมีต่อสินทรัพย์ของบัญชีของคุณ Order ซื้อหรือขายหมายความว่าคุณเปิด Long หรือ Short ตามลำดับ เลือก “ซื้อ / Buy” หากคุณรู้สึก Bullish และคาดหวังว่าราคาคริปโทเคอร์เรนซีจะปรับตัวขึ้น มิฉะนั้นให้เลือก “ขาย / Sell” เว็บไซต์: ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น เว็บไซต์จึงสะดวกยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ชอบทำการวิเคราะห์ทางเทคนิคและมีทักษะในการอ่านกราฟแท่งเทียน ไม่ว่าคุณจะเลือกเทรด Futures บนเว็บไซต์หรือแอป เมื่อทำตามขั้นตอนทั้งหมดข้างต้นแล้วคลิก “ซื้อ / Buy” หรือ “ขาย / Sell” แล้ว ก็เท่ากับว่าคุณได้ทำการเทรด Futures แล้ว แม้ว่าขั้นตอนอาจดูตรงไปตรงมา แต่ก็ยังมีบางเรื่องที่คุณต้องทราบก่อนทำการเทรด Futures ทำความเข้าใจใน Order และ Position ของคุณ Funding Rate Funding Rate เรียกอีกอย่างว่าค่าธรรมเนียม Funding เมื่อใช้ USDT Perpetual Futu res เป็นพื้นฐานของบทความ เนื่องจาก Perpetual ไม่มีวันที่ส่งมอบ ผลกำไรและขาดทุนจึงคำนวณแตกต่างออกไปเมื่อเทียบกับสัญญา Futures มาตรฐาน Funding Rate ของ Bitget สะท้อนถึงผลกำไรและขาดทุนของนักเทรด โดยอัปเดตและคำนวณทุก 8 ชั่วโมงตามส่วนต่างราคาระหว่างตลาด Futures กับตลาด Spot แพลตฟอร์ม Bitget ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม Funding แต่จะเป็นการจ่ายสินทรัพย์เข้าไปยังบัญชีของผู้ชนะซึ่งนำมาจากบัญชีที่แพ้ โดยขึ้นอยู่กับ Position ที่ยังไม่ได้ชำระราคา Margin เลเวอเรจในการเทรด Futures นั้นอำนวยความสะดวกผ่าน Margin ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องชำระเต็มจำนวนสำหรับสินทรัพย์ แต่จะต้องลงเงินทุนจำนวนเล็กน้อยเป็นหลักประกันในอัตราที่กำหนดโดยอิงตามมูลค่า Futures เงินทุนนี้เรียกว่า Margin ตัวอย่าง: ผู้ใช้ A ถือ Long 2X Position ในคู่ EOS/USDT โดยมี Margin ปัจจุบันอยู่ที่ 0.15314844 USDT หาก A เพิ่มเลเวอเรจ ก็จะทำให้ Margin ลดลงอย่างสอดคล้องกัน ในทางกลับกัน หากผู้ใช้ A ลดเลเวอเรจ ก็จะทำให้ Margin เพิ่มขึ้นอย่างสอดคล้องกัน ● Margin ที่เปิด Margin ที่เปิดคือจำนวน Margin ขั้นต่ำที่ต้องใช้ในการเปิด Position ซึ่งจะแสดงเป็น “ต้นทุน Order / order cost” เมื่อวาง Order Margin ที่เปิด = (มูลค่าPosition ÷ ตัวคูณเลเวอเรจ) + ค่าธรรมเนียมการเปิดโดยประมาณ ณ เวลาที่เปิด Position เมื่อ Order ได้รับการดำเนินการ ส่วนที่เหลือหลังจากหักค่าธรรมเนียมการเปิดแล้วจะถูกส่งกลับไปยังสินทรัพย์ที่ใช้ได้โดยอัตโนมัติ ● Position Margin หลังจากสร้าง Position แล้ว คุณสามารถตรวจสอบ Margin สำหรับตำแหน่งเฉพาะนั้นๆ ได้ในส่วน “Position / Positions” ของหน้าการเทรด Futures Margin ของ Position เริ่มต้น = มูลค่า Position ÷ เลเวอเรจ คุณยังสามารถปรับ Margin ของ Position ได้โดยใช้ปุ่ม “+/-” หรือโดยการปรับเลเวอเรจ ● Margin คงเหลือ Margin คงเหลือคือ Margin ที่สามารถนำมาใช้ในการเปิด Position ได้ Margin นี้จะมีการปล่อยบางส่วน ซึ่งจะเพิ่มอัตราการใช้สินทรัพย์เนื่องด้วยสถานะของ Hedge Position ที่ใช้ Margin มากกว่าใน และจะยึดตามสถานะจริงของธุรกรรม ● Maintenance Margin Maintenance Margin คือมูลค่าขั้นต่ำที่คุณต้องมีเพื่อรักษา Position ของคุณให้เปิดอยู่ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามขนาดปัจจุบันของ Position ของคุณ ค่าธรรมเนียมธุรกรรม สำหรับมือใหม่ ค่าธรรมเนียมถือเป็นข้อกังวลหลักเช่นเดียวกับในการเทรด Spot ค่าธรรมเนียมธุรกรรม Futures จะคำนวณตามจำนวนเปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจแตกต่างกันออกไปตามประเภทของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ไม่ว่านักเทรดจะเป็น Maker หรือ Taker ก็ล้วนมีผลต่อจำนวนเปอร์เซ็นต์ทั้งสิ้น สำหรับอัตราค่าธรรมเนียมโดยเฉพาะ โปรดดูที่ ตารางค่าธรรมเนียม โครงสร้างค่าธรรมเนียม Futures ของ Bitget นั้นเปิดเผยและโปร่งใส โดยคำนวณดังนี้: ค่าธรรมเนียมธุรกรรม = (ขนาด Position × ราคาธุรกรรม) × อัตราค่าธรรมเนียมธุรกรรม = มูลค่า Order x อัตราค่าธรรมเนียมธุรกรรม หมายเหตุ: มูลค่า Order = จำนวน Futures Order × ราคาธุรกรรม เช่น A ซื้อ BTCUSDT Futures โดยใช้ Market Order และ B ขาย BTCUSDT Futures โดยใช้ Limit Order หากราคาธุรกรรมคือ 60,000 USDT ค่าธรรมเนียม Taker ของ A = 1 × 60,000 × 0.06% = 36 USDT ค่าธรรมเนียม Maker ของ B = 1 × 60,000 × 0.02% = 12 USDT กุญแจสู่ความสำเร็จในการเทรด Futures เมื่อเทรดผลิตภัณฑ์หรืออนุพันธ์ทางการเงิน ไม่มีกลยุทธ์ใดรับประกันได้ถึงผลกำไรที่สม่ำเสมอโดยไม่เกิดการขาดทุน แม้แต่นักเทรดรุ่นเก๋าอย่าง Warren Buffett ก็เคยเผชิญช่วงเวลายากลำบากตลอดเส้นทางการลงทุนอันยาวนาน อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอน นั่นคือคุณต้องจัดการอารมณ์ รักษากรอบความคิดที่ถูกต้อง และจัดสรร Position ของคุณอย่างสมเหตุสมผล สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ เช่น Futures นั้น ความผันผวนของราคาอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสินทรัพย์ของคุณได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีสติตลอดกระบวนการ อย่าลืมว่าการเทรด Futures ไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น แต่เป็นการวิ่งมาราธอน แนะนำให้อ่าน: คู่มือสำหรับมือใหม่ Bitget — Futures คืออะไร คู่มือสำหรับมือใหม่ Bitget — วิธีหลีกเลี่ยง Liquidation (การบังคับขาย)

คู่มือสำหรับมือใหม่ Bitget — Futures คืออะไร

ภาพรวม - การเทรด Futures เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูง แต่ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากผลกำไรที่มากขึ้นได้โดยใช้เงินทุนน้อยลง แต่ก็มีโอกาสที่จะขาดทุนมากขึ้นเช่นกัน การเข้าใจในระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ก่อนเริ่มเทรดจะช่วยให้คุณใช้ผลิตภัณฑ์ Futures ได้ดีขึ้น - บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นคู่มือช่วยให้ผู้ใช้มือใหม่เข้าใจผลิตภัณฑ์ Futures ของ Bitget ได้ดีขึ้น พร้อมทั้งแนะนำข้อมูลคำศัพท์และแนวคิดที่เกี่ยวข้อง และให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงลักษณะของผลิตภัณฑ์ Futures ตลอดจนความเสี่ยงและข้อดีที่อาจมี - บทความนี้แบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ดังต่อไปนี้ การเทรด Futures คืออะไร, ประเภทการเทรด Futures, การเทรด Futures ทำงานอย่างไร, ข้อดีและข้อเสียของการเทรด Futures และศัพท์การเทรด Futures หากคุณรู้ทั้งหมดนี้แล้ว ให้ไปที่วิธีทำการเทรด Futures ครั้งแรกของคุณเพื่อเริ่มต้นเส้นทาง Futures การเทรด Futures คืออะไร การเทรด Futures เป็นอนุพันธ์ทางการเงินประเภทหนึ่งที่แตกต่างไปจากการเทรด Spot โดยช่วยให้นักลงทุนทำกำไรมากขึ้นได้ด้วยการเปิด Short หรือการใช้ประโยชน์จากเลเวอเรจ Bitget F utures ให้นักลงทุนเทรดได้ถึงมากกว่า 200 คู่เทรด Margin พร้อมเลเวอเรจสูงสุดถึง 125X เช่น เมื่อนักลงทุนเชื่อว่าราคาของสินทรัพย์กำลังจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ก็สามารถเปิด Long หรือ Short ใน Futures ได้เพื่อใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์ดังกล่าว ที่สำคัญกว่านั้น ไม่ว่านักลงทุนจะมี Position แบบใดก็ตาม ก็สามารถใช้เลเวอเรจเพื่อเพิ่มผลตอบแทนได้ ประเภทการเทรด Futures การเทรด Futures ในโลกคริปโทเคอร์เรนซีมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทหลักๆ คือ USDT-M/USDC-M Futures และ Coin-M Futures บน Bitget สามารถเทรดได้ทั้ง USDT-M/USDC-M Futures , Coin-M Futures และ Delivery Futures การเทรด USDT-M/USDC-M Futures หรือที่เรียกกันว่า Forward Futures หมายถึง Futures ที่ชำระราคาเป็น Stablecoin เช่น USDT และ USDC ตัวอย่างของ Futures ดังกล่าวได้แก่ BTCUSDT และ ETHUSDC (สังเกตได้จากสกุลเงินอ้างอิงที่เป็น Stablecoin) ในทางกลับกัน Coin-M Futures หรือที่เรียกกันว่า Inverse Futures หมายถึง Futures ที่ชำระราคาเป็นคริปโต เช่น BTCUSD และ ETHUSD ประเด็นหนึ่งที่ควรทราบก็คือ USDT-M/USDC-M Futures สามารถเรียกอีกอย่างได้ว่า USDT-M/USDC-M Perpetual Futures ซึ่งไม่มีการหมดอายุตามชื่อ Coin-M Futures แบ่งออกได้เป็น Coin-M Perpetual Futures และ Coin-M Delivery Futures ซึ่งอย่างหลังจะมีระยะเวลาการส่งมอบ นักลงทุนควรแยกแยะประเภทของ Futures ที่ตนเทรดให้ชัดเจน คำเหล่านี้หลายคำอาจทำให้มือใหม่สับสน แต่การเทรด Futures นั้นง่ายมาก เพียงแค่จำสินทรัพย์อ้างอิง สกุลเงินที่ใช้ชำระราคา และวันหมดอายุสัญญา ซึ่งนำไปใช้กับสัญญา Futures ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Perpetual, Delivery, Forward หรือ Inverse ลองดู Bitget Futures เป็นตัวอย่าง: ความแตกต่าง USDT-M/USDC-M Futures (Forward Futures) Coin-M Futures Perpetual Futures (Inverse Futures) Coin-M Futures Delivery Futures (Inverse Futures) สกุลเงินอ้างอิง โดยปกติแล้วจะเป็น Stablecoin เช่น USDT และ USDC โดยปกติแล้วจะเป็น Bitcoin หรือคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ โดยปกติแล้วจะเป็น Bitcoin หรือคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ มูลค่าของสัญญา (Notional Value) เป็น Fiat เป็นคริปโต เป็นคริปโต วันหมดอายุสัญญา ไม่ ไม่ ใช่ ผู้ใช้ที่เหมาะสม มือใหม่ มือใหม่ ผู้เชี่ยวชาญ การเทรด Futures ทำงานอย่างไร ตรรกะเบื้องหลังการเทรด Futures นั้นค่อนข้างเรียบง่าย คือเป็นการช่วยให้นักลงทุนสามารถกู้ยืม Fiat หรือคริปโตเพื่อเทรดในราคาที่ต้องการ ณ จุดใดจุดหนึ่งในอนาคตได้ สมมติว่านักลงทุน A มี 10,000 USDT ในบัญชี (เงินต้น) ของตน และนักลงทุน A เชื่อว่า Bitcoin กำลังจะปรับตัวขึ้นจากราคา $50,000 นักลงทุน A จึงกู้ยืม 90,000 USDT จาก Bitget แล้วใช้ 100,000 USDT ของตนซื้อสัญญา Bitcoin Futures จำนวน 2 สัญญา หากราคาของ Bitcoin ปรับตัวขึ้นเป็น $60,000 ในวันถัดไป นักลงทุน A ก็เลือกได้ว่าจะถือ Position ของตนต่อไป หรือจะขาย/ปิดสัญญา Futures ทั้ง 2 สัญญาก็ได้เช่นกัน โดยหลังจากขาย/ปิด Position ของตนแล้ว นักลงทุน A จะมี 120,000 USDT อยู่ในบัญชี จากนั้นเมื่อชำระคืนยอด 90,000 USDT ให้กับ Bitget แล้ว นักลงทุน A ก็จะมียอดเหลือ 30,000 USDT ในบัญชีของตน โดยหลังจากหักเงินต้น 10,000 USDT แล้ว นักลงทุน A จะได้กำไร 20,000 USDT มีตัวแปรบางประการที่ควรทราบดังนี้: 1. นักลงทุน A สามารถปรับจำนวนที่ตนกู้ยืมได้ (การใช้เลเวอเรจ) ตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตน 2. นักลงทุน A สามารถซื้อ/เปิด Long ได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกับที่สามารถขาย/เปิด Short ได้อย่างง่ายดาย 3. หลังจากที่นักลงทุน A มีกำไรแล้ว ก็สามารถเลือกที่จะถือต่อไป, เพิ่ม Position, ปิด Position หรือขาย Position บางส่วนออกไปก็ได้เช่นกัน 4. หากราคาของ Bitcoin ปรับตัวลงหลังจากที่นักลงทุน A เปิด Position แล้ว นักลงทุน A อาจจำเป็นต้องเพิ่มเงินทุนในบัญชีของตนเพื่อป้องกัน Liquidation (การบังคับขาย) ในทางปฏิบัติ การเทรด Futures เป็นการที่แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนให้นักลงทุนกู้ยืมเงินเพื่อเพิ่มผลกำไรโดยแลกกับความเสี่ยงที่จะขาดทุนเพิ่มขึ้น เลเวอเรจเป็นฟีเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดของการเทรด Futures เนื่องจากช่วยให้นักลงทุนสามารถเพิ่มผลกำไรได้โดยไม่ต้องลงทุนเงินต้นเองเต็ม 100% ของมูลค่า Position ข้อดีและข้อเสียของการเทรด Futures เนื่องจากเลเวอเรจเป็นฟีเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดของการเทรด Futures จึงมีข้อดีและข้อเสียที่ค่อนข้างชัดเจน กล่าวให้เข้าใจโดยง่ายคือนักลงทุนมีโอกาสที่จะทำกำไรได้มหาศาลในวันเดียว แต่ก็เสี่ยงที่จะสูญเสียทุกสิ่งในคราวเดียวเช่นกัน ข้อดี: - กำไรมหาศาลด้วยเงินลงทุนจำนวนเล็กน้อย: ในการเทรด Futures นักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากเงินทุนจำนวนเล็กน้อยเพื่อทำกำไรจำนวนมากได้ ปัจจุบัน เลเวอเรจสูงสุดที่แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนหลักๆ มีให้ใช้ได้คือ 125X ซึ่งหมายความว่านักลงทุนสามารถเพิ่มผลตอบแทนได้มากถึง 125 เท่าของเงินทุนของตน แม้ว่าการเทรด Futures จะช่วยให้ใช้สินทรัพย์ได้ดีขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือเลเวอเรจที่สูงไม่เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่ เนื่องจากจะเพิ่มความเสี่ยงต่อ Liquidation (การบังคับขาย) - กำไรรวดเร็ว เมื่อเทียบกับการเทรด Spot แล้ว การเทรด Futures ช่วยให้นักลงทุนทำกำไรได้เร็วกว่ามาก วัดที่ค่าเฉลี่ย 10% ต่อการปรับตัวขึ้น การเทรด Spot จะต้องปรับตัวขึ้น 7 ครั้งถึงจะทำให้เงินต้น $10,000 เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าได้ ในทางกลับกัน การเทรดที่เลเวอเรจ 10X จะทำให้เงินต้นในจำนวนที่เท่ากันเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าได้ในการปรับตัวขึ้นเพียงครั้งเดียว (กำไร = $10,000 × 10 × 10% = $10,000) - ตัวเลือกในการเปิด Short คริปโตเป็นตลาดที่มักมีช่วงกระทิงสั้นและมีตลาดหมียาว ซึ่งหมายความว่าจังหวะการเข้าเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับนักลงทุน แม้ว่าในช่วงตลาดกระทิงจะเข้าซื้อแล้วทำกำไรได้ไม่ยาก แต่ในช่วงตลาดหมีนั้น การทำกำไรจากการเทรด Spot กลับกลายเป็นเรื่องที่ท้าทาย การเทรด Futures จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับนักลงทุนในการเปิด Short ซึ่งช่วยให้ทำกำไรได้จากเทรนด์ตลาดขาลง - Hedge ความเสี่ยง Downside การ Hedge ความเสี่ยงเป็นกลยุทธ์การเทรดขั้นสูงที่นักลงทุนและนักขุดที่มีประสบการณ์นำมาใช้ เนื่องจากในช่วงตลาดหมีนั้นมูลค่ายอดถือครอง Spot ของนักลงทุนจะลดลง จึงสามารถ Hedge ความเสี่ยงนี้ได้โดยการเปิด Short Position ซึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงปรับตัวลง ข้อเสีย: - เสี่ยงต่อ Liquidation (การบังคับขาย) ไม่มีวิธีใดที่จะทำกำไรมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าการเทรด Futures จะช่วยเพิ่มผลกำไร แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียเงินเช่นกัน ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดประการหนึ่งคือ Liquidation (การบังคับขาย) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อนักลงทุนเปิด Futures Position แต่ไม่มีเงินทุนเพียงพอที่จะรักษา Position เอาไว้ได้เมื่อราคาเคลื่อนไหวสวนทาง กล่าวโดยง่ายคือเมื่อการเคลื่อนไหวของราคาที่ติดลบคูณด้วยเลเวอเรจแล้วเกิน 100% จะทำให้สูญเสียเงินลงทุนทั้งก้อน สมมติว่านักลงทุน A เปิด Long กับ BTC ด้วยเลเวอเรจ 50X หากราคาของ BTC ปรับตัวลง 2% (50 × 2% = 100%) จะทำให้นักลงทุน A สูญเสียเงินต้นไปทั้งก้อน แม้ว่าราคาจะปรับตัวขึ้นหลังจากผ่านไป 5 นาที แต่ความเสียหายก็ได้เกิดขึ้นแล้ว ส่วน Short Position ก็ใช้หลักการเดียวกันนี้ หากนักลงทุน A เปิด Short กับ BTC ด้วยเลเวอเรจ 20X แล้วราคาปรับตัวขึ้น 5% จะทำให้ Position ของนักลงทุนถูก Liquidate (บังคับขาย) Liquidation (การบังคับขาย) เป็นความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดในการเทรด Futures นักลงทุนจำนวนมากที่เพิ่งเริ่มต้นในการเทรด Futures นั้นยังไม่ได้เข้าใจเรื่องเลเวอเรจอย่างลึกซึ้ง จึงไม่ทันตระหนักว่าการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นนั้นใหญ่พอๆ กับผลกำไรที่อาจทำได้ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการหลีกเลี่ยง Liquidation (การบังคับขาย), ควบคุมความเสี่ยง และรักษาเงินต้นไว้ให้ปลอดภัย สามารถดูได้ที่วิธีหลีกเลี่ยง Liquidation (การบังคับขาย) ศัพท์การเทรด Futures Insurance Fund: Pool ของสินทรัพย์ที่ใช้ในการดูดซับการขาดแคลนหลักประกันและลดความเป็นไปได้ที่จะเกิด Deleveraging โดยอัตโนมัติ (ADL) ขึ้นบนแพลตฟอร์ม Insurance Fund = มูลค่าของ Position ÷ เลเวอเรจ Maintenance Margin: หลักประกันขั้นต่ำที่กำหนดไว้เพื่อให้ถือ Position ต่อไปได้ Maintenance Margin จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามเพดานความเสี่ยงของนักเทรด อัตรา Maintenance Margin / Maintenance Margin Rate: จำนวน Margin ที่สอดคล้องกับระดับขั้นของขนาด Position โดยเมื่ออัตรา Margin ของ Position ลงไปต่ำกว่าอัตรา Maintenance Margin ระบบจะทริกเกอร์ Liquidation (การบังคับขาย) บางส่วนหรือทั้งหมด อัตราส่วน Margin / Margin Ratio: ตัววัดระดับความเสี่ยงของ Position ณ ขณะนั้นของผู้ใช้ เมื่อถึง 100% ระบบจะทริกเกอร์ Liquidation (การบังคับขาย) บางส่วนหรือทั้งหมด อัตราส่วน Margin = Maintenance Margin ของ Position ณ ขณะนั้น ÷ (Equity ในบัญชี - จำนวนที่ถูกระงับไว้สำหรับ Order ในโหมด Isolated Margin - Unrealized PNL ของ Isolated Margin Position - Isolated Margin สำหรับ Position) Isolated Margin: แต่ละ Position จะได้รับการจัดสรร Margin จำนวนหนึ่งไปให้ โดยหาก Margin ของ Position ลงไปต่ำกว่า Maintenance Margin ระบบจะทริกเกอร์ Liquidation (การบังคับขาย) ซึ่งในโหมดนี้สามารถเพิ่ม Margin เข้าไปยังหรือลบ Margin ออกจาก Position ได้ Cross Margin: ยอดคงเหลือที่ใช้ได้ทั้งหมดในบัญชีสามารถใช้เป็น Margin เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิด Liquidation (การบังคับขาย) กับ Position โหมด Cross Margin / Cross Margin Mode: โหมด Margin ที่ใช้ยอดคงเหลือที่ใช้ได้ในบัญชีของนักเทรดเป็น Margin สำหรับ Position ที่เปิด โหมด Isolated Margin / Isolated Margin Mode: โหมด Margin ที่แยก Margin ซึ่งวางไว้ใน Position ที่เปิด โดยแยกออกจากยอดคงเหลือในบัญชีของนักเทรด ราคา Mark / Mark Price: ราคาดัชนี Spot ของทั้งตลาดบวกกับอัตรา Funding พื้นฐานแบบถดถอย ราคา Mark ต่อราคา Liquidation (Spread) / Mark Price to Liquidation Price (Spread): Spread ระหว่างราคา Liquidation โดยประมาณของ Order กับราคา Mark ณ ขณะนั้น ซึ่งจะช่วยให้นักเทรดตรวจสอบดู Spread และประเมินความเสี่ยงที่จะเกิด Liquidation (การบังคับขาย) ทันทีได้ก่อนที่จะยืนยันการวาง Order Position Margin: Margin ขั้นต้น + ค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่กำหนดไว้สำหรับการปิด Position Margin ขั้นต้น / Initial Margin: Margin ที่กำหนดไว้เพื่อเปิด Position สำหรับการเทรด Margin Liquidation (การบังคับขาย): หมายถึงเมื่อ Margin ของ Position ลงไปต่ำกว่า Maintenance Margin ซึ่งส่งผลให้สูญเสียหลักประกัน Margin ทั้งหมดไปโดยสิ้นเชิง โดยระบบจะทริกเกอร์เมื่อราคา Mark มาถึงราคา Liquidation ของ Position ปิดที่ราคาตลาด / Market Close: การปิด Trigger Order ที่ได้วางไว้ โดยปิดที่ราคาตลาด Market Order: Order ที่ได้รับการดำเนินการทันทีในราคาตลาดที่ดีที่สุดที่มีอยู่ ณ ขณะนั้นใน Order Book การวาง Order ตามราคาตลาด / Market Price-Based Order Placing: ระบบจะเลือกราคาที่น่าจะได้รับการดำเนินการมากที่สุดมาเพื่อวาง Order หาก Order ไม่ได้รับการดำเนินการหรือได้รับการดำเนินการไม่เต็มจำนวน ระบบก็จะยังคงวาง Order ถัดไปในราคาล่าสุดที่น่าจะได้รับการดำเนินการมากที่สุด โบนัสการเทรด / Trading Bonus: ผู้ใช้สามารถใช้โบนัสการเทรดเพื่อทำการเทรดภายในช่วงปริมาณหรือลงทุนในผลิตภัณฑ์บางอย่างได้ แต่ไม่สามารถถอนหรือโอนเข้าบัญชีอื่นได้ Margin ของ Order / Order Margin: ผลรวมของ Margin ทั้งหมดสำหรับ Order ที่แอคทีฟอยู่ซึ่งกำลังรอดำเนินการ Unrealized PNL: ผลกำไรขาดทุนโดยประมาณของ Position ตามราคาตลาด ณ ขณะนั้น ซึ่งไม่รวมค่าธรรมเนียมธุรกรรมหรือค่าธรรมเนียม Funding Limit Order: Order ที่มีการวางไว้ใน Order Book ซึ่งมีขีดจำกัดราคาที่ตั้งไว้ ซึ่งผู้ใช้จะเป็นผู้ตั้งขีดจำกัดราคา โดยจะดำเนินการ Order ก็ต่อเมื่อราคาตลาดมาถึงหรือดีกว่าราคา Bid/Ask ณ ขณะนั้นเท่านั้น Limit Order ช่วยให้ผู้ใช้ซื้อได้ในราคาต่ำกว่าหรือขายได้ในราคาสูงกว่าราคาตลาด ณ ขณะนั้น ซึ่งจะต่างจาก Market Order ที่ดำเนินการทันที ณ ราคาตลาด ณ ขณะนั้น โดยจะมีการวาง Limit Order ไว้ใน Order Book และจะถูกทริกเกอร์เมื่อราคามาถึงแล้วเท่านั้น Trailing TP/SL: คำสั่งพิเศษที่ช่วยให้ผู้ใช้วาง Order ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าได้เมื่อตลาดเคลื่อนไหวสวนทาง/ในทางเดียวกันกับการเทรดของตน โดยเมื่อราคาตลาด/ราคา Mark มาถึงราคาสูงสุด/ต่ำสุด × (1 ± Trail Variance) ระบบก็จะวาง Order ณ ราคาตลาดที่ดีที่สุด ที่แสดงไว้ข้างต้นคือตัวอย่างศัพท์และลักษณะที่พบได้ทั่วไปของ Futures ในการเทรดสัญญา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูคำอธิบายศัพท์การเทรด Futures และสถานการณ์การใช้งาน

Bitcoin Halving: ดวงจันทร์ก็แค่ปากซอยหรือไม่

เมื่อ Bitcoin Halving ครั้งถัดไปกำลังใกล้เข้ามา ก็ไม่แปลกอะไรที่เราจะบอกกันและกันว่า “LFG” แต่จะใช้เวลานานเท่าไรและอีกไกลแค่ไหนกว่าจะมูนไปถึงดวงจันทร์ เราวางใจในทองคำดิจิทัล เช่นเดียวกับทองคำ Bitcoin มีอุปทานที่จำกัด (กำหนดไว้ที่ 21 ล้าน Bitcoin) และสามารถนำมาใช้เป็นการ Hedge ต่อภาวะเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีลักษณะกระจายศูนย์ นั่นคือ มีรูปแบบที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ มีความสัมพันธ์ต่ำกับสินทรัพย์แบบดั้งเดิม และมีระดับการเข้าถึงที่สูงกว่ามาก ใครๆ ก็สามารถซื้อและถือ Bitcoin ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะในจำนวนที่เล็กน้อยเพียงใดก็ตาม “ข้อบกพร่อง” ที่ใหญ่ที่สุดของ Bitcoin เห็นจะเป็นความผันผวนที่สูงมากและระบบนิเวศที่จำกัด ซึ่งแตกต่างไปจาก Ethereum ที่เป็นตัวขับเคลื่อนนวัตกรรมในด้าน DeFi, GameFi, SoFi, LSD, RWA, NFT และแทบทุกสิ่งที่จะจินตนาการได้ แต่เดิม Bitcoin ถูกสร้างขึ้นมาเป็น “เงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบ Peer-to-Peer ล้วนๆ ” ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้รองรับการพัฒนา DApp ที่ซับซ้อนขั้นสูง อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่มองและลงทุน Bitcoin ในฐานะที่เก็บรักษามูลค่ามากกว่าจะเห็นว่าเป็นสินทรัพย์ประเภทใหม่ กราฟด้านล่างแสดงความผันผวนของ Bitcoin เมื่อเทียบกับดัชนี NASDAQ Composite Index (COMP) และ SP 500 Index (SPX) เห็นได้ชัดว่ามีการแกว่งตัวขึ้นลงอย่างรุนแรง แต่จำกันได้ไหมว่าผู้คนเคยหัวเราะเยาะ Bitcoin ในสมัยนั้นกันอย่างไร ชายคนหนึ่งเคยใช้ 10,000 Bitcoin ซื้อพิซซ่า 2 ถาด ซึ่งปัจจุบันนี้ราคาอยู่ที่ระดับ US$40,000 ต่อ 1 Bitcoin การที่ Bitcoin ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ในขณะที่ตลาดอื่นๆ เติบโตเต็มที่แล้ว ก็คาดได้ว่าจะมีความผันผวนต่อไป ซึ่งในความผันผวนนี้แหละที่มีโอกาสอันน่าอัศจรรย์แฝงอยู่ ปี 2022 เป็นปีที่เราทุกคนอยากจะลืม เพราะตลาดหมีได้เริ่มต้นขึ้นและ Bitcoin ร่วงลงมาเหลือเพียง US$15,508 หลังจากที่เข้าใกล้ US$69,000 ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 แต่ดังที่ K33 Research ได้ชี้ให้เห็นคือดูเหมือนว่าตลาดหมีจะไม่ได้อยู่กับเรายาวนานขนาดนั้น ที่มา: K33 Research บน Twitter ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2023 ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันดังกล่าวของ Bitcoin อยู่ที่ 147.5% และมีคอลเลกชัน Bitcoin Ordinals ออกมาให้ประมูลกันบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของ Sotheby's เป็นครั้งแรกสุด ซึ่งเป็นบริษัทจัดการประมูลผลงานศิลปะที่ก่อตั้งมาแล้ว 279 ปี โดยจัดจนถึงวันที่ 13 ธันวาคม 2023 และมีการยื่นขอจด Bitcoin Spot ETF จำนวน 13 กอง อยู่บนโต๊ะของ SEC ซึ่งเราจะได้พูดถึงกันในส่วนถัดไป โดยรวมแล้ว ปี 2023 ดีกว่าที่คาดไว้มาก และปี 2024 ก็มีสัญญาณว่าจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเกิด Bitcoin Halving ครั้งที่ 4 Bitcoin Halving เป็นอีเวนต์ที่จะเกิดขึ้นทุกๆ 4 ปี ซึ่งจะทำให้รางวัลบล็อกลดลงครึ่งหนึ่ง หมายความว่า Bitcoin ใหม่ที่ขุดขึ้นมาได้จะมีจำนวนลดลง 50% เลยทีเดียว Satoshi ออกแบบมาเช่นนี้เพื่อให้นักขุด Bitcoin ได้รับ 50 Bitcoin ต่อบล็อกในปี 2009, 25 หลังจาก Halving ครั้งแรกในปี 2012, 12.5 หลังจากครั้งที่ 2 ในปี 2016, 6.25 หลังจากครั้งที่ 3 ในปี 2020, 3.125 หลังจากครั้งที่ 4 ในปี 2024 และเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ แนวคิดเบื้องหลังการ Halving คือการควบคุมภาวะเงินเฟ้อของ Bitcoin และหลีกเลี่ยงแรงกดดันจากการที่นักขุดจะเทขาย กล่าวโดยสรุปคือ Bitcoin Halving มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin ในทางบวกมากที่สุด ตอนนี้ใครๆ ก็อยากได้ส่วนแบ่ง เหตุผลหลักประการหนึ่งที่ทำให้ Bitcoin พุ่งสูงขึ้นถึงระดับ US$40,000 ในปีนี้มาจากการที่ TradFi ต้องการ Bitcoin เป็นอย่างมาก โดยมีทั้ง Bitcoin Futures ETF ที่มีกองยักษ์ใหญ่คือ ProShares Bitcoin Strategy ETF (BITO) และ ProShares Short Bitcoin Strategy ETF (BITI), มีหุ้นเหมืองขุด (RIOT, MARA, CAN, HUT, CIFR เป็นต้น), มีหุ้น Coinbase และ MicroStrategy ที่เป็นบริษัทซึ่งเป็นมิตรกับ Bitcoin (COIN และ MSTR) ตลอดจนกอง Bitcoin ETF กองแรกที่มีเลเวอเรจในสหรัฐอเมริกา (BITX) แต่ Wall Streets ก็ยังคงรอไฟเขียวจาก SEC อยู่เพื่อให้เข้ามาได้จริงๆ จำนวนการยื่นขอจดกองต่อ SEC ที่กล่าวถึงคำว่า “Bitcoin” นั้นเพิ่มขึ้นจาก 0 ในปี 2012 ไปเป็น 167 ในปี 2016 และ 1,421 ในปี 2020 ก่อนที่จะพุ่งกระฉูดในปี 2021-23 นอกจากนี้ Larry Fink ยังได้กลับทิศความเห็นจาก “Bitcoin เป็นดัชนีการฟอกเงิน” มาเป็น “Bitcoin เป็นสกุลเงินที่เปิดกว้าง ตรวจสอบได้ และไร้ขอบเขตสัญชาติ” ทรรศนะดังกล่าวคือหนึ่งในหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดว่าสถาบันมีความต้องการ Bitcoin เราอัปเดตผลตอบแทนของหุ้นที่กล่าวถึงทั้งหมดทุกสัปดาห์ในซีรีส์ Bitget Hot Takes ของเรา พร้อมด้วยการสรุปความเคลื่อนไหวตลาดคริปโตและข่าวใหญ่ประจำสัปดาห์ เรารู้ว่า Bitcoin เพิ่มขึ้นเกือบ 150% YTD และ 3,158 เท่าตั้งแต่ต้นปี 2013 เป็นการทำผลตอบแทนชนิดที่ทิ้งห่างสินทรัพย์อื่นๆ ทั้งหมดแบบไม่เห็นฝุ่น ปัจจุบัน Bitcoin ในฐานะที่เก็บรักษามูลค่าเกิดใหม่ สามารถเพิ่มลงในพอร์ตการลงทุนเพื่อให้กระจายความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้นได้ เมื่อเราเปรียบเทียบพอร์ตที่เป็น 100% COMP กับ 100% SPX จะเห็นได้ว่า COMP ทำผลตอบแทนได้เหนือกว่า SPX ไปอย่างสบายๆ เนื่องจาก NASDAQ มีกลุ่มเทคอยู่มาก (และกลุ่มเทคโนโลยีก็คือกลุ่มน้ำมันชนิดใหม่) แต่หากสมมุติว่าเราจัดสรรแค่เพียง 3% ให้กับ Bitcoin และ 97% ให้กับ SP 500 ก็จะเห็นได้ว่าทำผลตอบแทนได้พอๆ กับ 100% COMP หากจัด 10% ให้ Bitcoin และ 90% ให้ SPX พอร์ตจะแซงหน้าแม้กระทั่งพอร์ตที่เป็น 95% COMP ซึ่งหากดูในอดีตแล้ว COMP มักจะทำกำไรได้มากที่สุดจาก 3 ยักษ์ใหญ่ (Dow, SP 500 และ NASDAQ Composite) และเนื่องจาก Bitcoin นั้นไม่อยู่ภายใต้ภาวะเงินเฟ้อ (สกุลเงิน Fiat) และไม่สามารถถูกควบคุมได้ จึงได้กลายมาเป็นความหลงใหลครั้งใหม่ของนักลงทุนทุกประเภท แม้ว่า Bitcoin จะเป็นที่รักของผู้สนับสนุนระบบกระจายศูนย์และเสรีภาพทางการเงินมานานแล้ว แต่กระแส Bitcoin ของสถาบันก็จะแพร่กระจายไปตามถนนสายหลักเมื่อเวลาผ่านไป และนำอุดมการณ์ของ Satoshi ไปสู่ผู้คนจำนวนมากขึ้นได้ในที่สุด ต้องมีกาวกันบ้าง เนื่องจาก Bitcoin Halving เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับ Bull Run ครั้งถัดไป เรามาลองคาดการณ์กันดูดีกว่า มี 2 สิ่งที่เป็นข้อสังเกต: • Bitcoin ใช้เวลานานขึ้นในการที่ราคาจะขึ้นไปทำ New High หลังจาก Halving แต่ละครั้ง • Bitcoin ไต่ขึ้นไปสู่ All Time High ใหม่ในอัตราที่ลดลงหลังจาก Halving แต่ละครั้ง ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า Bitcoin ใช้เวลาเพียง 1 ปีนิดๆ หลังจาก Halving ครั้งแรกในการทำ ATH ใหม่ แต่กรอบเวลาได้ขยายเป็น 527 วันและ 548 วันหลังจาก Halving ในปี 2016 และ 2020 ดังนั้นจึงไม่ผิดนักที่จะบอกว่าเราอาจได้เห็น ATH ใหม่หลังผ่านไป 500-600 วันหรือในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคมถึงธันวาคม 2025 เรียกได้ว่าเรายังคงมาก่อนกาลกันอยู่ ดูการประมาณการราคา Bitcoin คร่าวๆ ได้ที่นี่: เนื่องจากมูลค่าสูงสุดของ Bitcoin เพิ่มขึ้นจาก US$1,147 ใน Halving รอบแรก (หลัง Halving ครั้งแรก) ไปเป็น US$19,783 ใน Halving รอบ 2 และไปเป็น US$68,925 ใน Halving รอบ 3 จึงถือได้ว่าอัตราเสื่อมอยู่ที่ 0.15 สำหรับอัตราการเติบโตของมูลค่าสูงสุด จากนั้น เราคาดว่าจะไปอยู่ที่ระดับ US$95,000 หลัง Halving ครั้งที่ 4 และระดับ US$100,000 หลัง Halving ครั้งที่ 5 โปรดทราบว่าอัตราเสื่อม 0.15 นั้นค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงเป็นการคาดการณ์ที่ระมัดระวังมากสำหรับมูลค่าสูงสุดของ Bitcoin ใน Halving รอบถัดไป ในขณะเดียวกัน เราพยายามคาดการณ์จุดต่ำสุดใน Halving รอบถัดไปด้วยโดยใช้ความห่างในอดีต และได้อัตราเสื่อมออกมาอยู่ที่ 0.13 สำหรับการเปลี่ยนแปลงของความห่าง ซึ่งต่ำกว่าอัตราเสื่อมของการเติบโตของมูลค่าสูงสุดเล็กน้อย สถานการณ์ที่คาดสำหรับมูลค่าขั้นต่ำของ Bitcoin หลังจากปี 2024 และ 2028 คืออยู่ที่ระดับ US$16,900 และ US$19,500 ตามลำดับ ซึ่งถือว่าไม่แย่เกินไปนักสำหรับผู้ที่ได้ช้อนมาบางส่วนที่ระดับ US$15,500 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 แน่นอนว่านี่เป็นการคาดการณ์ราคา Bitcoin ที่ระมัดระวังเช่นกัน เป็นไปได้ที่ Bitcoin อาจพุ่งทะยานขึ้นไปอีกและความห่างจะแคบขึ้นไวขึ้นโดยมีสภาพคล่องดีขึ้น (หมายความว่ามีผู้คนมากขึ้นที่เต็มใจซื้อและขาย ซึ่งจะทำให้ราคาแกว่งน้อยลง) เมื่อดูจากทุกมุมมอง ก็เข้าใจได้ไม่ยากเลยว่าทำไมตลาดถึงได้มีความเชื่อมั่นในแบบ Bullish และเหตุใด Bitcoin จึงตั้งท่ารอทะยานในปี 2024 ข้อสงวนสิทธิ์: ความคิดเห็นที่อยู่ในบทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น บทความนี้ไม่ใช่การสนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริการใดๆ ที่ได้มีการเอ่ยถึง รวมถึงไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน การเงิน หรือการเทรด ผู้ใช้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองก่อนตัดสินใจลงทุน

สร้างรายได้แบบ Passive Income ได้อย่างง่ายดายกับ Bitget

Passive Income หมายถึงเงินที่ได้จากสินทรัพย์ซึ่งไม่ได้ใช้งานโดยที่ไม่ต้องลงแรงในการมีส่วนร่วม ผู้ใช้คริปโตรายใหม่จำนวนมากใช้แนวทาง “ซื้อแล้วถือ” ซึ่งเป็นการรอให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่อีกหลายคนก็ลุยการเทรด Futures ซึ่งเป็นการแสวงหาผลกำไรผ่านทาง Long หรือ Short Position ในทางกลับกัน นักลงทุนมือฉมังจะสำรวจข้อมูลผลิตภัณฑ์ทางการเงินบน CEX เพื่อหา Passive Income Bitget มาพร้อมหลากหลายผลิตภัณฑ์เพื่อให้คุณสร้าง Passive Income ได้ง่ายๆ ต่อไปนี้คือวิธียอดนิยมในการหารายได้พิเศษบน Bitget: การลงทุนใน Savings Bitget Savings เป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนแบบไร้ความเสี่ยง ให้ผลตอบแทนรายปี (APR) ที่มั่นคงและน่าดึงดูด ปัจจุบันรองรับคริปโทเคอร์เรนซีหลักๆ เช่น BGB, USDT, BTC, ETH, ARB และอีกเพียบ ผู้ใช้สามารถเลือกประเภท Fixed Savings หรือ Flexible Savings ได้โดยขึ้นอยู่กับระยะเวลา Subscription ที่เลือก Flexible Savings ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับดอกเบี้ยรายวันจากยอดฝากและให้ความยืดหยุ่นในการ Redeem ได้ทุกเมื่อ เช่น ในปัจจุบัน APR ของ USDT อยู่ที่ 8% Fixed Savings เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีระยะเวลาคงที่ (ปกติคือ 7 วันหรือ 14 วัน) เมื่อเทียบกับ Flexible Savings แล้ว Fixed Savings นั้นจะให้ผลตอบแทนสูงกว่า ลองดู APE เป็นตัวอย่าง โดย APR ปัจจุบันของผลิตภัณฑ์ APE Savings แบบคงที่ระยะ 14 วันนั้นอยู่ที่ 20% รับผลตอบแทนจากการ Stake การ Stake เป็นหนึ่งในวิธีที่พบได้บ่อยที่สุดในการหา Passive Income ในโลกคริปโต คุณอาจคุ้นเคยกับชื่อ PoS ซึ่งย่อมาจาก Proof of Stake ในกลไกฉันทามติ PoS นั้น การ Stake เหรียญมากขึ้นและถือไว้นานขึ้นจะเพิ่มโอกาสของคุณในการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมรายการถัดไปและได้รับรางวัลบล็อก ระยะเวลาตั้งแต่ Node ประมวลผลธุรกรรมก็ส่งผลต่อโอกาสนี้เช่นกัน มีบล็อกเชนจำนวนมากขึ้นที่กำลังเปลี่ยนไปใช้กลไก PoS เนื่องจากกลไก PoW นั้นใช้พลังงานสูงและมีประสิทธิภาพต่ำ เช่น ETH เปลี่ยนจาก PoW มาเป็น PoS ในปี 2022 Bitget ให้บริการแพลตฟอร์ม PoS Staking ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้มากที่สุดในอุตสาหกรรมคริปโต โดยยกทัพโปรเจกต์ PoS ชั้นนำมากมายมารวมไว้ในที่เดียว พร้อมทั้งให้ Redeem ได้อย่างยืดหยุ่น รวมถึงช่วยให้ผู้ใช้รับรางวัลบล็อกได้อย่างง่ายดายโดยไม่จำเป็นต้องแบกรับความเสี่ยงในการเป็น Node Validator ด้วยวิธีนี้ ผู้ใช้ไม่เพียงได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนความปลอดภัยของเครือข่ายบล็อกเชนเท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมในการ Stake แบบ On-Chain อีกด้วยเช่นกัน ทำให้ได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงและเป็นการนำสินทรัพย์ที่อยู่นิ่งๆ ไปใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ บอทเทรดที่ขับเคลื่อนด้วย AI การเทรดด้วยบอทแบบอัตโนมัติเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการสร้างรายได้แบบ Passive Income อย่างไรก็ตาม บอททั่วไปมักมีข้อเสียเปรียบอยู่ตรงที่ตั้งพารามิเตอร์ได้อย่างจำกัด ส่งผลให้ได้รับผลตอบแทนเพียงเล็กน้อยและตอบโจทย์ผู้ใช้ที่มีระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้แตกต่างกันไปได้อย่างไม่ตรงจุดนัก Bitget มองเห็นช่องว่างนี้ จึงเป็นผู้นำด้วยการนำเสนอระบบบอท AI ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ได้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการกำหนดค่าพารามิเตอร์ของบอท โดยพารามิเตอร์ที่แนะนำโดยบอท AI นี้จะแตกต่างจากคำแนะนำของระบบทั่วไป เพราะได้มาจากข้อมูลย้อนหลังของตลาดและความผันผวนของราคา ซึ่งคำนวณโดยใช้อัลกอริทึม Backend อันแข็งแกร่งของ Bitget จึงมั่นใจได้ว่านักเทรดจะมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ ช่วยให้มีบอทการลงทุนขั้นสูงและใช้งานได้อย่างสะดวกเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้สูงสุด ยิ่งไปกว่านั้น Bitget ยังให้บริการบอท AI ด้วยกัน 3 ประเภทซึ่งออกแบบมาให้ลงตัวกับพอร์ตรูปแบบต่างๆ ของนักลงทุนและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ที่แตกต่างกันไป ได้แก่ เสี่ยงต่ำ สมดุล และเสี่ยงสูง โดยพารามิเตอร์ที่แนะนำจะมีเป้าหมายเพื่อทำงานให้ตรงตามระดับความเสี่ยงที่ผู้ใช้ยอมรับได้ให้มากที่สุด สำหรับบอท AI แบบเสี่ยงต่ำนั้นจะเทรดด้วยความระมัดระวัง ทำหน้าที่เป็นการ Hedge สภาวะตลาดที่รุนแรง ในขณะที่บอท AI แบบเสี่ยงสูงออกแบบมาให้ทำกำไรหลายครั้งผ่านการเทรดความถี่สูง (HFT) เพื่อให้ได้ผลกำไรยาวนาน ส่วนบอทแบบสมดุลจะอยู่ตรงกลาง ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างคงที่ นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถดูข้อมูล ROI 30 วันซึ่ง Backtest มาแล้วของบอท AI ได้อีกด้วย รวมถึงดูจำนวนผู้ใช้ที่ใช้บอทในปัจจุบันได้เช่นกัน เมื่อกำลังตัดสินใจว่าจะใช้บอท AI ตัวใด ในปัจจุบัน Bitget ให้บริการบอท AI สำหรับ Spot Grid, Futures Grid, Spot Martingale และ Futures Martingale บอทแต่ละตัวบน Bitget มาพร้อมกับการตั้งค่าความเสี่ยงที่ปรับแต่งได้ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ง่าย เมื่อเปิดใช้งานแล้ว บอทจะดำเนินงานโดยอัตโนมัติ โดยใช้ประโยชน์จากทุกความผันผวนของตลาดเพื่อให้ผู้ใช้ได้มีแหล่งรายได้ Passive Income ที่มั่นคงและวางใจได้ Copy Trading Copy Trading เป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนจะติดตามและคัดลอกการเทรดของนักลงทุนรายอื่น (โดยปกติจะเป็น Elite Trader) และถือพอร์ตหรือ Position เหมือนกันกับนักเทรดที่ตนติดตาม Bitget เป็นแพลตฟอร์มเทรด Copy Trading ผู้บุกเบิกซึ่งรองรับการเทรด Copy Trading โดยมีทั้ง Spot และ Futures Copy Trading ผู้ใช้ Bitget จึงคัดลอก Order ต่างๆ ที่ Elite Trader เป็นผู้วางได้ Bitget ช่วยให้ผู้ติดตามดูข้อมูลของ Elite Trader ได้อย่างครอบคลุม ทั้งพอร์ตการลงทุนโดยละเอียดและผลการดำเนินงานย้อนหลัง ซึ่งรวมไปถึงตัวชี้วัดต่างๆ ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น PNL, Win Rate, AUM และอีกเพียบ เมื่อผู้ใช้เลือกที่จะคัดลอกรายการเทรดของ Elite Trader ระบบจะคัดลอกการเปิดและปิดเทรดของนักเทรดคนดังกล่าวให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับรายได้แบบ Passive Income ได้โดยไม่ต้องเฝ้าจอเพื่อติดตามเทรนด์ตลาดและการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างใกล้ชิด นับตั้งแต่เปิดให้บริการมา Bitget Copy Trading ประสบความสำเร็จในการดึงดูด Elite Trader กว่า 110,000 รายให้มาแบ่งปันกลยุทธ์ของตน และมีผู้ติดตามมากกว่า 520,000 รายในการเทรด Copy Trade ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2023 แสดงให้เห็นว่า Bitget Copy Trading ได้อำนวยความสะดวกในการดำเนินการเทรด Copy Trade ไปแล้วมากกว่า 57 ล้านรายการ ซึ่งทำให้ผู้ใช้มีกำไรไปแล้วกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการแบ่งปันกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จบน Bitget นี้ Elite Trader ไม่เพียงจะมีส่วนช่วยสร้างสถานะของตนในแวดวงคริปโตเท่านั้น แต่ยังเพิ่มรายได้ Passive Income ของตนอีกด้วย จนถึงปัจจุบัน Elite Trader บน Bitget ได้รับส่วนแบ่งกำไรทั้งหมดรวมกันไปแล้วถึง 23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โปรแกรมพันธมิตร Bitget เข้าร่วมโปรแกรมพันธมิตร Bitget เพื่อรับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษมากมาย ปัจจุบัน Bitget มีพันธมิตรมากกว่า 15,000 รายใน 150 ประเทศและภูมิภาค จ่ายค่าคอมมิชชั่นสะสมไปแล้วสูงสุดถึง 20,000 BTC ใครก็ตามที่มีเครือข่ายคนรู้จักที่แข็งแกร่งหรือมีผู้ติดตามจำนวนมากบนโซเชียลมีเดียก็สามารถสมัครได้ ในฐานะพันธมิตรของ Bitget คุณจะได้รับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษมากมายดังนี้: ค่าคอมมิชชั่นจุใจจาก Bitget โบนัสการเทรดมากมายรายเดือนสำหรับพันธมิตรที่โดดเด่น ส่วนแบ่งกำไรของ Elite Trader สูงสุดถึง 10% สิทธิ์การเข้าถึงพิเศษในการประชุมแบบตัวต่อตัว เข้าถึงโปรโมชันที่จัดมาเป็นพิเศษเพื่อพันธมิตร สมัครเป็นพันธมิตร Bitget ได้ที่นี่ ผลิตภัณฑ์ Earn ที่รับประกันเงินต้น สำหรับนักลงทุนทั่วไป นี่คือวิธีง่ายๆ ในการสร้างรายได้แบบ Passive Income เช่นกัน ปัจจุบัน Bitget มี 2 ผลิตภัณฑ์ Earn ที่รับประกันเงินต้น ได้แก่ Shark Fin และ Smart Trend Shark Fin เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินล้ำนวัตกรรมที่ผสมผสานผลิตภัณฑ์ที่มีดอกเบี้ยคงที่เข้ากับอนุพันธ์ทางการเงิน ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเสี่ยงต่ำ Smart Trend เป็นอีกผลิตภัณฑ์ทางการเงินล้ำนวัตกรรมที่ใช้การผสมผสานระหว่างสินทรัพย์ที่ตายตัวกับ Options (สัญญาสิทธิ) เพื่อสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่โดดเด่นซึ่งมีความสมดุลระหว่างความเสี่ยงกับผลตอบแทน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกันก็รักษาสมดุลด้านความเสี่ยงต่อความผันผวนของราคาคริปโตด้วย นักลงทุนสามารถรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้จากการปรับตัวขึ้นหรือลงของราคาคริปโต นอกเหนือไปจากการรับ APR พื้นฐาน โดยขึ้นอยู่กับฝีมือการวิเคราะห์เทรนด์ราคาของตน เช่น ผลิตภัณฑ์ USDT/BTC ที่ชำระราคาเมื่อ 24 มิถุนายน 2023 นั้นให้ APR ถึง 47.80% อ่านเพิ่มเติม: บทแนะนำ Bitget Shark Fin และบทช่วยสอน Bitget Smart Trend ยอดถือครอง BGB BGB เป็นโทเค็นดั้งเดิมของ Bitget ซึ่งให้ผู้ถือนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษมากมายด้วย เช่น ส่วนลดค่าธรรมเนียมธุรกรรม Spot ถึง 20% รวมถึงการเข้าร่วมใน Bitget Launchpad และ Launchpool ยิ่งไปกว่านั้นยังให้ผลตอบแทนที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในตลาด แม้จะอยู่ท่ามกลางตลาดหมี แต่ BGB ก็ยังคงมีสถานะแข็งแกร่ง โดยแตะระดับ New High ได้เป็นระยะๆ ในทางตรงกันข้าม Bitcoin ร่วงลงมาแล้ว 55% จากจุดสูงสุดครั้งก่อน การที่ BGB ให้ผลตอบแทนที่แข็งแกร่งในตลาดเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างมหาศาล Bitget ยังคงมุ่งมั่นที่จะเสริมศักยภาพ BGB และสร้างความมั่นใจให้กับส่วนแบ่งของผู้ถือในด้านการปันผลที่เติบโต ในอีกไม่นานนี้ Bitget คาดว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้ผู้ใช้มีรายได้แบบ Passive Income ด้วยวิธีที่มั่นคงและง่ายดาย หากไม่ได้เป็น Bitgetter สมัครเพื่อเริ่มต้นการเดินทางสู่โลกคริปโตได้เลย!

มุมมองรอบด้านเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซี 10 อันดับแรกตามมูลค่าตามราคาตลาด

ในขณะที่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซียังคงพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง รายชื่อผู้เล่นตัวหลักๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนผู้ช่ำชองที่ต้องการกระจายพอร์ตการลงทุนของคุณ หรือเป็นมือใหม่ที่พยายามทำความเข้าใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี การมองไปยังคริปโทเคอร์เรนซีชั้นนำตามมูลค่าตามราคาตลาดนั้นสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกอันล้ำค่าได้ คู่มือฉบับสมบูรณ์นี้ประกอบด้วยข้อมูลที่สดใหม่จากคลังข้อมูลที่เชื่อถือได้ของ CoinGecko ซึ่งอัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2023 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยคุณในการเดินทางฝ่าเขาวงกตอันซับซ้อนในโลกของสินทรัพย์ดิจิทัล เราจะพาไปดูข้อมูลฟีเจอร์ ความเป็นมา และเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังคริปโทเคอร์เรนซี 10 อันดับแรกที่กำลังครองตลาดอยู่ในปัจจุบัน อันดับที่กล่าวถึงในบทความนี้อิงตามข้อมูลจาก CoinGecko ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2023 และอาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป Bitcoin (BTC): เจ้าแห่งคริปโต ภาพรวม อันดับ 1 ด้วยมูลค่าตามราคาตลาดที่ US$530,079,527,201 เศรษฐศาสตร์ของโทเค็น: จำกัดอุปทานสูงสุดไว้ที่ 21 ล้าน ข้อได้เปรียบ: มักถูกมองว่าเป็น “ทองคำดิจิทัล” โดย Bitcoin ถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยง (Hedge) ต่อเงินเฟ้อ All Time High (ATH) และ All Time Low (ATL): US$69,044 (พ.ย. 2021) และ US$67.81 (ก.ค. 2013) Bitcoin (BTC) คือคริปโทเคอร์เรนซีสกุลแรกของโลก เปิดตัวสู่สายตาชาวโลกโดยนักพัฒนานิรนามที่ดำเนินงานภายใต้นามแฝงว่า “Satoshi Nakamoto” โดย Bitcoin ดำเนินงานบนระบบบัญชีแยกประเภท (Ledger) แบบกระจายศูนย์ที่ใช้ Cryptography (วิทยาการเข้ารหัสลับ) ในลักษณะของบล็อกเชน ด้วยเหตุนี้ Bitcoin จึงไม่ได้ถูกควบคุมโดยธนาคารกลางหรือหน่วยงานกลางใดๆ ใครๆ ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของบล็อกเชนนี้ได้และจะได้รับรางวัลเป็น Bitcoin จากการเข้าร่วมในกระบวนการ “การขุด” ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Bitcoin ให้ผลตอบแทนเหนือกว่าดัชนีหุ้นหลักอย่าง SP 500 และ Dow Jones Industrial Average แม้ตลาดหุ้นจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ Bitcoin ก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกว่ามากทีเดียว โดยในช่วงเดือนมีนาคม 2023 นั้น Bitcoin ให้ผลตอบแทนเหนือกว่า 97% ของบริษัททั้งหมดใน SP 500 เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bitcoin (BTC) Bitcoin Halving | Pizza Day | มูลค่าและราคา | คู่มือการเทรด Bitcoin | คำถามที่พบบ่อย | แนวคิดหลัก | Bitcoin NFT | สงคราม Block Size | Bitcoin ETF คืออะไร วิธีได้ BTC ซื้อ/ขาย BTC ด้วย Fiat Bitcoin ได้กลายมาเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่ผู้คนสามารถลงทุนหรือเก็งกำไรได้ด้วยเช่นกัน คุณสามารถซื้อและขาย BTC ด้วยสกุลเงิน Fiat ท้องถิ่นของคุณ ซึ่งรวมไปถึงด้วยช่องทางผู้ให้บริการการชำระเงินผ่านบุคคลที่สาม, ตลาด P2P และบัตรเครดิต/เดบิตบน Bitget ได้ตลอดเวลา ปัจจุบัน Bitget รองรับมากกว่า 140 สกุลเงินและมากกว่า 70 วิธีการชำระเงิน ซึ่งรวมไปถึง Mastercard, VISA, SEPA, SWIFT และวิธีการชำระเงินอื่นๆ ตามท้องถิ่น เข้าสู่ระบบไปยังบัญชี Bitget ของคุณ เลื่อนเมาส์ไปวางเหนือ “ซื้อคริปโต / Buy Crypto” แล้วเลือกวิธีการชำระเงินที่ใช้ได้ในประเทศ/ภูมิภาคของคุณ เทรด BTC ในตลาด Bitget Spot และ Futures การเทรด Spot เทรด Bitcoin Spot: BTCUSDT เทรด Bitcoin Spot Margin: BTCUSDT เทรด Bitcoin Spot Grid: BTCUSDT Bitcoin Spot Martingale: BTCUSDT ลงทุน Bitcoin Spot แบบอัตโนมัติ: BTCUSDT การเทรด Futures Bitcoin Coin-M Futures: BTCUSD Bitcoin USDT-M Futures: BTCUSDT Bitcoin USDC-M Futures:BTCUSDC เทรด Bitcoin Futures Grid: BTCUSDT Ethereum (ETH): ผู้บุกเบิก Smart Contract ภาพรวม อันดับ 2 ด้วยมูลค่าตามราคาตลาดที่ US$204,844,559,374 เศรษฐศาสตร์ของโทเค็น: ไม่ได้กำหนดขีดจำกัดอุปทานไว้ ข้อได้เปรียบ: รองรับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์, Smart Contract รวมถึงกิจกรรมใน DeFi และ NFT ส่วนใหญ่ All Time High (ATH) และ All Time Low (ATL): US$4,878.26 (พ.ย. 2021) และ US$0.432979 (ต.ค. 2015) Ethereum เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนแบบกระจายศูนย์ที่พัฒนาโดย Vitalik Buterin โปรแกรมเมอร์ชาวรัสเซีย Ethereum ไม่ได้ถูกควบคุมจัดการโดยเซิร์ฟเวอร์หรือองค์กรแบบรวมศูนย์ แต่ดำเนินงานบนคอมพิวเตอร์หลายพันเครื่องที่กระจายอยู่ทั่วโลก Ethereum เป็นมากกว่าสกุลเงินเพราะทำให้โลกได้รู้จักกับพลังแห่ง Smart Contract โดยเป็นแพลตฟอร์มให้กับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (DApp) และเป็นรากฐานให้กับเซกเตอร์ DeFi และ NFT ส่วนใหญ่ แม้ Ethereum จะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2023 แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้สะท้อนให้เห็นจากจำนวนผลการค้นหาบน Google หากดูสัดส่วนการครองตลาดของ Bitcoin ที่ 42.5% นับจากต้นปีมาถึงช่วงเวลาปัจจุบัน Ethereum ยังคงรั้งอันดับ 2 ไว้ได้อย่างเหนียวแน่นที่ 18.1% ซึ่งถือว่าทิ้งห่างคริปโทเคอร์เรนซีอันดับ 3 อย่าง Tether (USDT) ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 6.7% โดย Tether นั้นเป็น Stablecoin และมักได้รับการยอมรับกันทั่วไปว่าเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับมือใหม่ในวงการคริปโต เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ethereum (ETH) Ethereum คืออะไร | The Merge | วันเกิด | มูลค่าและราคา ตอนที่ 1 และตอนที่ 2 วิธีได้ ETH ซื้อ/ขาย ETH ด้วย Fiat คุณสามารถซื้อและขาย ETH ด้วยสกุลเงิน Fiat ท้องถิ่นของคุณ ซึ่งรวมไปถึงด้วยช่องทางผู้ให้บริการการชำระเงินผ่านบุคคลที่สาม, ตลาด P2P และบัตรเครดิต/เดบิตบน Bitget ได้ตลอดเวลา เทรด ETH ในตลาด Bitget Spot และ Futures การเทรด Spot เทรด ETH Spot: ETHUSDT เทรด ETH Spot Margin: ETHUSDT เทรด ETH Spot Grid: ETHUSDT ETH Spot Martingale: ETHUSDT ลงทุน ETH Spot แบบอัตโนมัติ: ETHUSDT การเทรด Futures ETH Coin-M Futures: ETHUSD ETH USDT-M Futures: ETHUSDT ETH USDC-M Futures: ETHPERP เทรด ETH Futures Grid: ETHUSDT Tether (USDT): ยักษ์ใหญ่ Stablecoin ภาพรวม อันดับ 3 ด้วยมูลค่าตามราคาตลาดที่ US$82,857,760,603 เศรษฐศาสตร์ของโทเค็น: USDT ไม่ได้จำกัดจำนวนอุปทานทั้งหมดเนื่องจากจำนวน USDT ที่ออกนั้นขึ้นอยู่กับมูลค่ารวมของสินทรัพย์ในทุนสำรองของ Tether ข้อได้เปรียบ: Tether ให้เสถียรภาพภายในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีที่มีความผันผวน All Time High (ATH) และ All Time Low (ATL): US$1.32 (ก.ค. 2018) และ US$0.57 (มี.ค. 2015) Tether (USDT) เป็นคริปโทเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 (รองจาก Bitcoin และ Ethereum) และเป็น Stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดตามมูลค่าตามราคาตลาด Tether เป็น Stablecoin ที่ตรึงมูลค่าไว้กับ USD หมายความว่า USDT สามารถแลกเปลี่ยนเป็น USD ได้ในอัตราส่วน 1: 1 เหรียญนี้สร้างขึ้นในปี 2014 โดยใช้ชื่อเดิมว่า “Realcoin” แต่ได้รีแบรนด์มาเป็น Tether ในภายหลังของปีเดียวกัน เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2023 เสถียรภาพของ USDT ซึ่งเป็น Stablecoin ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและตรึงมูลค่าไว้กับ USD นั้นเผชิญกับการเบี่ยงเบนเล็กน้อยจากมูลค่าปกติที่ US$1.00 โดยแม้ราคาหล่นลงไปถึง US$0.996 แต่ก็ฟื้นตัวกลับมาที่ US$0.999 ได้อย่างรวดเร็วในเวลาต่อมาภายในวันเดียวกันนั้นเอง แต่เนื่องจาก USDT เป็น Stablecoin ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาด การหลุดมูลค่าที่ตรึงไว้แม้เพียงเล็กน้อยจึงทำให้เกิด FUD และการเก็งกำไรในชุมชนคริปโตได้อย่างกว้างขวาง เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Tether (USDT) Tether (USDT) คืออะไร | Tether หลุดราคาตรึงในฤดูร้อนปี 2023: เกิดอะไรขึ้นกับ USDT วิธีได้ USDT ที่ส่วน “ซื้อคริปโต / Buy Crypto” ในหน้าแรก จะพบตัวเลือกมากมายในการซื้อ USDT: - บัตรเครดิต/เดบิต: เรารองรับมากกว่า 140 สกุลเงิน Fiat และมากกว่า 70 วิธีการชำระเงิน ซึ่งรวมไปถึง Mastercard, VISA, SEPA และ SWIFT - การเทรด P2P: สามารถซื้อ USDT ด้วยวิธีการชำระเงินในท้องถิ่นของคุณได้ในราคาที่คุณต้องการ - บุคคลที่สาม: สามารถซื้อ USDT ด้วยหลากหลายสกุลเงิน Fiat ได้เช่นกันผ่านทางผู้ให้บริการบุคคลที่สามของเรา เช่น Simplex, Banxa และ Mercuryo BNB (BNB): ผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน ภาพรวม อันดับ 4 ด้วยมูลค่าตามราคาตลาดที่ US$34,306,930,411 เศรษฐศาสตร์ของโทเค็น: อุปทานทั้งหมดคือ 200,000,000 ข้อได้เปรียบ: BNB ทำหน้าที่เป็นคริปโทเคอร์เรนซีดั้งเดิมของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน Binance ให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมธุรกรรมกับนักเทรด และให้นักเทรดเข้าถึงระบบนิเวศได้ All Time High (ATH) และ All Time Low (ATL): US$686.31 (พ.ค. 2021) และ US$0.0398 (ต.ค. 2017) BNB ถือกำเนิดขึ้นในฐานะโทเค็นดั้งเดิมของ Binance ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม Binance และเป็นส่วนสำคัญต่อการเติบโตของ Binance Smart Chain เดิมทีโทเค็น BNB เปิดตัวมาด้วยการเป็นโทเค็น ERC-20 เพื่อระดมทุนสำหรับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน Binance ในปี 2017 วิธีได้ BNB เทรด BNB ในตลาด Bitget Spot และ Futures ตลาด Futures BNBUSDT ตลาด Spot BNBUSDT BNBUSDC Ripple (XRP): ผู้เชี่ยวชาญข้ามพรมแดน ภาพรวม อันดับ 5 ด้วยมูลค่าตามราคาตลาดที่ US$27,764,349,639 เศรษฐศาสตร์ของโทเค็น: อุปทานทั้งหมดของ XRP อยู่ที่ 1 แสนล้านโทเค็น ข้อได้เปรียบ: XRP มีเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนที่รวดเร็วและมีต้นทุนต่ำ All Time High (ATH) และ All Time Low (ATL): US$3.40 (ม.ค. 2018) และ US$0.0026 (พ.ค. 2014) Ripple ถือได้ว่าเป็นทั้งคริปโทเคอร์เรนซีและเครือข่ายการชำระเงินดิจิทัล Ripple ร่วมก่อตั้งโดย Chris Larsen และ Jed McCaleb เปิดตัวในปี 2012 โดยสำหรับทั้งธนาคารและสถาบันการเงินนั้น Ripple เป็นระบบธุรกรรมสำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ Ripple เป็นชื่อของบริษัทและเครือข่ายทางการเงิน ส่วน XRP เป็นโทเค็นประจำแพลตฟอร์ม ใช้ XRP เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนระหว่าง 2 สกุลเงินหรือเครือข่าย มีบทบาทในกลไกการชำระราคาแบบชั่วคราว วิธีได้ XRP ซื้อ/ขาย XRP ด้วย Fiat Bitget รองรับคริปโทเคอร์เรนซีที่หลากหลาย ซึ่งสามารถซื้อได้ผ่านบัตรเครดิต/เดบิต และแพลตฟอร์มบุคคลที่สามอย่าง Alchemy Pay, Simplex และ Banxa โดยมี Ripple (XRP) เป็นน้องใหม่สุดที่เข้ามาร่วมรายการผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายของ Bitget นี้ เสริมทัพสินทรัพย์อย่าง Tether (USDT), Bitcoin (BTC) และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งหมายความว่าขณะนี้คุณสามารถซื้อ XRP บน Bitget ได้ด้วยมากกว่า 140 สกุลเงิน ซึ่งรวมไปถึงดอลลาร์สหรัฐ (USD), ยูโร (EUR), ปอนด์อังกฤษ (GBP) และดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ที่เกี่ยวข้อง: ซื้อ Ripple (XRP) แบบราบรื่นไม่มีสะดุดโดยใช้เงิน Fiat เทรด XRP ในตลาด Bitget Spot และ Futures ตลาด Futures XRPUSDT ตลาด Spot XRP/USDT XRP/USDC USD Coin (USDC): คู่ท้าชิงศึก Stablecoin ภาพรวม อันดับ 6 ด้วยมูลค่าตามราคาตลาดที่ US$26,105,544,669 เศรษฐศาสตร์ของโทเค็น: USDC เป็น Stablecoin ซึ่งตรึงมูลค่าไว้กับดอลลาร์สหรัฐแบบ 1:1 และมีทุนสำรองที่ได้รับการตรวจสอบเป็นประจำ ข้อได้เปรียบ: USDC ให้เสถียรภาพและอำนวยความสะดวกในการแปลงระหว่างคริปโทเคอร์เรนซีกับ Fiat เช่นเดียวกับ USDT All Time High (ATH) และ All Time Low (ATL): US$1.17 (พ.ค. 2019) และ US$0.877 (มี.ค. 2023) USD Coin (USDC) เป็น USD Stablecoin ที่ออกโดย CENTRE ซึ่งเป็นกิจการค้าร่วม (Consortium) ที่ก่อตั้งโดย Coinbase และ Circle โดยตรึงมูลค่าไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อัตราส่วน 1:1 ด้วยการใช้สกุลเงิน Fiat และสินค้าโภคภัณฑ์ หมายความว่า 1 USDC จะเท่ากับ 1 USD USDC เปิดตัวครั้งแรกในฐานะโทเค็น ERC-20 ในปี 2018 และได้ขยายไปยังแพลตฟอร์มหลักอื่นๆ นับตั้งแต่นั้นมา ปี 2021 เป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับ Stablecoin เนื่องจาก VISA เริ่มรับการชำระเงินด้วย USDC วิธีได้ USDC จากหน้าแรกของ Bitget ให้เลือก “ซื้อคริปโต / Buy Crypto” เพื่อซื้อและขาย USDC ด้วยสกุลเงิน Fiat ท้องถิ่นของคุณ ซึ่งรวมไปถึงด้วยช่องทางผู้ให้บริการการชำระเงินผ่านบุคคลที่สาม, ตลาด P2P และบัตรเครดิต/เดบิตบน Bitget ได้ตลอดเวลา ที่เกี่ยวข้อง: คู่มือซื้อ USDC ด้วย Fiat บน Bitget Lido Staked Ether (STETH): โซลูชันการ Stake ของ Ethereum ภาพรวม อันดับ 7 ด้วยมูลค่าตามราคาตลาดที่ US$14,532,706,519 เศรษฐศาสตร์ของโทเค็น: STETH ไม่มีจำนวนอุปทานทั้งหมด ข้อได้เปรียบ: STETH ช่วยให้ผู้ถือมีส่วนร่วมในการ Stake ได้โดยไม่จำเป็นต้องจัดการด้านเทคนิคด้วยตนเอง All Time High (ATH) และ All Time Low (ATL): US$4,829.57 (พ.ย. 2021) และ US$482.90 (ธ.ค. 2020) Lido เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยจากสินทรัพย์ดิจิทัลของตนโดยการ Stake ในขณะที่ยังคงมีสภาพคล่องเพื่อการใช้งานในแอปพลิเคชัน DeFi อื่นๆ เปิดตัวครั้งแรกบน Ethereum ในปี 2020 โดยอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถ Stake ETH เพื่อรับ STETH ได้ ซึ่งเป็นโทเค็นที่เป็นตัวแทนของ ETH ซึ่ง Stake ไว้ใน Lido ไม่เพียง STETH จะแสดงถึงมูลค่าของ ETH ที่ Stake ไว้และรางวัลจากการ Stake เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เพื่อเพิ่มผลตอบแทนสูงสุดผ่านการวางเป็นหลักประกัน, การให้กู้ยืม, Yield Farming และโปรโตคอล DeFi อื่นๆ ได้อีกด้วย หากต้องการลงทุนใน Lido Staked Ether (STETH) ก็สามารถใช้เวลาเพียง 2 นาทีในการสร้างบัญชีที่ Bitget แล้วเริ่มเทรด STETH ได้เลย! Dogecoin (DOGE): มีมที่กลายมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ ภาพรวม อันดับ 8 ด้วยมูลค่าตามราคาตลาดที่ US$9,291,669,070 เศรษฐศาสตร์ของโทเค็น: ไม่มีอุปทานสูงสุด ข้อได้เปรียบ: ชุมชนที่กระตือรือร้น ค่าธรรมเนียมต่ำ และการนำไปใช้งานผ่านการให้ทิปและการกุศล All Time High (ATH) และ All Time Low (ATL): US$0.731 (พ.ค. 2021) และ US$0.0000869 (พ.ค. 2015) Dogecoin (DOGE) เป็นคริปโทเคอร์เรนซีสาธารณะที่สร้างขึ้นโดยวิศวกรซอฟต์แวร์ Billy Marcus และ Jackson Palmer เพื่อเป็นมุกตลกอารมณ์ดีที่ล้อเลียนการเก็งกำไรคริปโต เปิดตัวในปี 2013 และถือกันว่าเป็น “Memecoin” เจ้าแรกของโลก แม้จะมีต้นกำเนิดแบบขำขัน แต่ Dogecoin กลับมีกรณีการนำไปใช้งานมากกว่าคริปโตส่วนใหญ่เสียอีก โดยนอกจากจะมีการนำไปใช้งานเป็นวิธีการชำระเงินในที่ต่างๆ ทั่วโลกแล้ว ยังมักใช้เป็นทิปสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ทางออนไลน์และในการบริจาคให้การกุศลอีกด้วย Dogecoin ได้รับความนิยมและมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากที่ Elon Musk ได้ทวีตข้อความเกี่ยวกับเหรียญดังกล่าวบนบัญชีส่วนตัวอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงกล่าวว่ามีแผนจะใช้ DOGE มาชำระเป็นค่าใช้จ่ายในภารกิจของ SpaceX ด้วย เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dogecoin (DOGE) Dogecoin (DOGE) คืออะไร | Dogeday คืออะไร วิธีได้ DOGE หากต้องการลงทุนใน Dogecoin (DOGE) หนึ่งในขั้นตอนแรกๆ ที่สามารถทำได้คือการซื้อคริปโต Bitget มาพร้อมตัวเลือกที่หลากหลาย เช่น การซื้อคริปโตผ่านบัตรเครดิต/เดบิต, การโอนผ่านธนาคาร, การเทรดแบบ Peer-to-Peer หรือแม้แต่การซื้อแบบต่อหน้า เมื่อได้คริปโตมาแล้ว ก็สามารถเริ่มเทรด DOGE บน Bitget ได้เลย! ตลาด Futures DOGEUSDT ตลาด Spot DOGEUSDT DOGEUSDC DOGEBTC Cardano (ADA): บล็อกเชนแบบ Peer-Reviewed ภาพรวม อันดับ 9 ด้วยมูลค่าตามราคาตลาดที่ US$9,212,030,431 เศรษฐศาสตร์ของโทเค็น: อุปทานกำหนดไว้ที่ 4.5 หมื่นล้าน ADA ข้อได้เปรียบ: Cardano มีเป้าหมายที่จะมอบแพลตฟอร์มที่ยั่งยืนและขยายการรองรับได้ยิ่งขึ้นสำหรับ Smart Contract และ DApp All Time High (ATH) และ All Time Low (ATL): US$3.09 (ก.ย. 2021) และ US$0.01925 (มี.ค. 2020) Cardano เป็นบล็อกเชนรุ่นที่ 3 ซึ่งใช้กลไกฉันทามติ Proof of Stake (PoS) ถือกำเนิดขึ้นในปี 2015 โดย Charles Hoskinson ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ซึ่งได้ออกจากโปรเจกต์มาด้วยความตั้งใจที่จะพัฒนาข้อด้อยของ Ethereum และสร้างเครือข่ายแบบกระจายศูนย์ที่มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น หลังจากผ่านช่วง ICO ในปี 2015 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากไปได้ 2 ปี ก็ได้มีการปล่อย Cardano Mainnet ออกมา ณ เวลาที่เขียนบทความ Cardano รองรับการนำไปใช้งานและแอปพลิเคชันที่หลากหลาย เช่น Smart Contract, DeFi, Internet of Thing และ NFT วิธีได้ ADA หากต้องการลงทุนใน Cardano (ADA) ก็สามารถใช้เวลาเพียง 2 นาทีในการสร้างบัญชีที่ Bitget แล้วเริ่มเทรด ADA ได้เลย ตลาด Futures ADAUSDT ตลาด Spot ADAUSDT ADAUSDC Solana (SOL): เร็วฉิวกว่าใคร ภาพรวม อันดับ 10 ด้วยมูลค่าตามราคาตลาดที่ US$8,314,995,031 เศรษฐศาสตร์ของโทเค็น: ไม่ได้กำหนดขีดจำกัดอุปทานไว้ ข้อได้เปรียบ: ความสามารถในการรับส่งข้อมูล (Throughput) สูงและการทำธุรกรรมที่รวดเร็วสำหรับ DeFi และ DApp All Time High (ATH) และ All Time Low (ATL): US$259.96 (พ.ย. 2021) และ US$0.5008 (พ.ค. 2020) Solana เป็นบล็อกเชนที่กำลังมาแรงซึ่งเปิดตัวในปี 2017 และเปิดตัว Mainnet ในปี 2020 โดยมุ่งหวังที่จะแข่งขันกับ Ethereum เป็นโอเพนซอร์สและมีความสามารถในการขยายการรองรับ ดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วและมีต้นทุนต่ำ Wallet ของ Solana ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ Phantom มีจำนวนผู้ใช้ที่แอคทีฟเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าจาก 200,000 รายในเดือนสิงหาคม 2021 ไปเป็น 1.2 ล้านรายในเดือนตุลาคม 2021 สิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่านั้นคือการมี TVL ที่เพิ่มขึ้นจาก 135.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนเมษายน 2021 ไปเป็น 1.014 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนตุลาคม 2021 หลังจากผ่านไปเพียงปีเดียว Solana ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นบล็อกเชนที่โดดเด่นที่สุดในโลกที่มีมูลค่าสินทรัพย์ที่ล็อกไว้กับระบบ (Total Value Locked: TVL) สูงที่สุด การบรรลุหมุดหมายอันน่าทึ่งดังกล่าวก็เนื่องด้วยการใช้กลไก Proof of History (PoH) ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะซึ่งคิดค้นโดยผู้ก่อตั้ง Anatoly Yakovenko ช่วยให้ความสามารถในการรับส่งข้อมูล (Throughput) นั้นมีประสิทธิภาพโดยไม่จำเป็นต้องใช้โซลูชันการขยายการรองรับเพิ่มเติม วิธีได้ SOL หากต้องการลงทุนใน Solana (SOL) ก็สามารถใช้เวลาเพียง 2 นาทีในการสร้างบัญชีที่ Bitget แล้วเริ่มเทรด SOL ได้เลย! ตลาด Futures SOLUSDT ตลาด Spot SOL/USDT SOL/USDC แม้คริปโทเคอร์เรนซีเหล่านี้จะรักษาอันดับเอาไว้ได้อย่างแข็งแกร่งด้วยมูลค่าตามราคาตลาด แต่ลักษณะของโลกคริปโตที่เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่งก็หมายความว่าอันดับดังกล่าวสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว Bitget สนับสนุนให้ผู้ใช้ของเราศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอและติดตามข่าวสารให้ทันเทรนด์ตลาดล่าสุดอยู่ตลอด คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับคริปโต คริปโทเคอร์เรนซีคืออะไร “คริปโทเคอร์เรนซี” บางครั้งเรียกกันสั้นๆ ว่า “คริปโต” เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้ Cryptography (วิทยาการเข้ารหัสลับ) คริปโทเคอร์เรนซีส่วนใหญ่มีลักษณะกระจายศูนย์ หมายความว่าไม่มีหน่วยงานที่มีอำนาจส่วนกลางในการออกหรือตรวจสอบยืนยันธุรกรรม ดังนั้นจึงเป็นประโยชน์ในด้านความเป็นส่วนตัวและลดต้นทุนธุรกรรมลงได้ โทเค็นคริปโต เทียบกับ เหรียญ ต่างกันอย่างไร เช่นเดียวกับทุกสิ่งทุกอย่าง คริปโทเคอร์เรนซีสามารถแบ่งออกได้หลายประเภทและหลายกลุ่มตามมาตรฐานในรูปแบบต่างๆ เหรียญกับโทเค็นเป็น 2 หมวดหมู่ที่พบเห็นได้แพร่หลายที่สุด เหรียญคริปโตเป็นสกุลเงินดั้งเดิมของบล็อกเชนของตัวเอง เช่น BTC มีต้นกำเนิดดั้งเดิมจากบล็อกเชน Bitcoin เช่นเดียวกับที่ ETH มีต้นกำเนิดดั้งเดิมมาจากบล็อกเชน Ethereum เหรียญเหล่านี้สามารถโอนและใช้งานได้เหมือนกับสกุลเงินทั่วไป แต่หน้าที่ที่สำคัญที่สุดที่เหรียญเหล่านี้มีคือการใช้ชำระค่าธรรมเนียม Gas เหรียญเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยนักขุดหรือผู้ที่เป็น Validator ในระหว่างกระบวนการขุดหรือการตรวจสอบความถูกต้อง และไม่ได้ถูกควบคุมโดยหน่วยงานกลางใดๆ โทเค็นคริปโตคล้ายคลึงกับเหรียญ แต่จะสร้างขึ้นบนบล็อกเชนที่มีอยู่และมีฟังก์ชันที่หลากหลายมากกว่า โดยสามารถเป็นได้ดังนี้: - Stablecoin เช่น USDT/USDC ที่ตรึงมูลค่าไว้กับสินทรัพย์ในโลกความเป็นจริง - Utility Token เช่น ARB ที่ให้การเข้าถึงหรืออำนาจแก่ผู้ถือ - Non-Fungible Token (NFT) เช่น BAYC ที่กระจายความโดดเด่นของผู้ถือไปทั่วทั้งเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์ก เพียงแค่สร้างบัญชี แล้วเริ่มสำรวจ Bitget-Verse ที่น่าทึ่งวันนี้เลย! ข้อสงวนสิทธิ์: ความคิดเห็นที่อยู่ในบทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น บทความนี้ไม่ใช่การสนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริการใดๆ ที่ได้มีการเอ่ยถึง รวมถึงไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน การเงิน หรือการเทรด ขอแนะนำให้คุณปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองก่อนทำการตัดสินใจใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน อันดับที่กล่าวถึงในบทความนี้อิงตามข้อมูลจาก CoinGecko ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2023 และอาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป

ทำความเข้าใจกับ Litecoin Halving ปี 2023 บทวิเคราะห์เชิงลึก

สรุปใจความสำคัญ - ทุกๆ 840,000 บล็อก หรือประมาณทุก ๆ 4 ปี Litecoin จะมีอีเวนต์ Halving เกิดขึ้น - ในปี 2019 รางวัลตอบแทนลดลงจาก 25 เป็น 12.5 LTC และสำหรับ Halving ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2023 นี้ รางวัลดังกล่าวจะลดลงอีกเป็น 6.25 LTC - Halving ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2023 จะลดอัตราเงินเฟ้อต่อปีของ Litecoin จากประมาณ 4% เหลือประมาณ 2% - Halving ได้ถูกโปรแกรมไว้แล้วตั้งแต่แรกแล้วในตัวโปรโตคอลบล็อกเชนเอง เพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อและประกันว่าอุปทาน LTC จะมีอัตราคงที่และสามารถคาดการณ์ได้ - Bitget นำเสนอข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ พร้อมกับบทวิเคราะห์แบบครบครันให้ผู้ใช้สามารถทำการตัดสินใจได้อย่างรู้เท่าทันข้อมูลในเรื่องที่เกี่ยวกับอีเวนต์ Litecoin Halving ที่กำลังจะถึงนี้ นับตั้งแต่ Bitcoin ถือกำเนิดขึ้นในปี 2009 โลกคริปโทเคอร์เรนซีได้เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยมีมูลค่าตามราคาตลาดเกินกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วภายในไตรมาสที่สองของปี 2023 อีกไม่ถึง 10 วัน Litecoin (LTC) ซึ่งเป็นหนึ่งในคริปโทเคอร์เรนซีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกก็จะพร้อมเข้าสู่อีเวนต์ Halving ครั้งที่ 3 ของตนแล้ว Litecoin สร้างขึ้นโดย Charlie Lee อดีตวิศวกรของ Google และออกแบบมาให้เป็น Bitcoin ในเวอร์ชัน “เบา ๆ (Lite)” และแม้ว่าทั้งสองจะมีลักษณะเหมือนกันหลายประการ แต่ Litecoin ก็มีความโดดเด่นจากการที่สามารถสร้างบล็อกได้เร็วกว่า (2.5 นาที เมื่อเทียบกับ Bitcoin ที่ใช้ถึง 10 นาที) และอัลกอริทึมการขุดที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง Scrypt เคยสงสัยไหมว่า Litecoin (LTC) คืออะไรและทำงานอย่างไร คุณต้องมาดูบทความนี้ของเราสักหน่อยแล้ว: Litecoin (LTC) คืออะไร Litecoin Halving: ข้อมูลเบื้องต้น อีเวนต์ Litecoin Halving มีรากฐานมาจากหลักการความขาดแคลน (Scarcity) และการค่อยๆ ลดรางวัลบล็อกลง โดยในตอนแรกที่ Litecoin ถูกสร้างขึ้น นักขุดจะได้รับรางวัล 50 LTC สำหรับทุกๆ บล็อกที่ตนทำการขุดไป ทั้งนี้ ทุกๆ 840,000 บล็อก หรือประมาณทุกๆ 4 ปี รางวัลนี้จะลดจำนวนลงไปครึ่งหนึ่ง ในปี 2019 รางวัลลดลงจาก 25 เป็น 12.5 LTC และสำหรับ Halving ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2023 นี้ รางวัลดังกล่าวจะลดลงอีกเป็น 6.25 LTC วันที่จะเกิด Litecoin Halving หมายเลขบล็อก รางวัลก่อน Halving รางวัลหลัง Halving ราคาก่อน Halving (โดยประมาณ) ราคา 1 ปีหลัง Halving (โดยประมาณ) 26 ส.ค. 2015 840,000 50 LTC 25 LTC US$3 US$4 5 ส.ค. 2019 1,680,000 25 LTC 12.5 LTC US$100 US$60 ส.ค. 2023 2,520,000 12.5 LTC 6.25 LTC US$92 รอประกาศ ส.ค. 2027 3,360,000 6.25 LTC 3.125 LTC รอประกาศ รอประกาศ โปรดทราบว่าราคาที่แสดงเป็นราคาโดยประมาณและอาจแตกต่างกันไปตามแหล่งข้อมูลต่างๆ เนื่องจากความผันผวนของ Litecoin และอัตราแลกเปลี่ยนที่แตกต่างกันบนแพลตฟอร์มต่างๆ โดยยังไม่ทราบราคาในเดือนสิงหาคม 2023 กระบวนการลดจำนวนดังกล่าวเรียกว่า “Halving” เป็นกลไกเพื่อให้เงินฝืด (Deflationary) โดยเป็นการควบคุมอัตราที่จะมี Litecoin ใหม่เข้าสู่ตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าวหายากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่ง Halving ที่จะเกิดขึ้นในปี 2023 นี้จะลดอัตราเงินเฟ้อต่อปีของ Litecoin จากประมาณ 4% เหลือประมาณ 2% แหล่งที่มาของข้อมูล: CoinMarketCap ผลกระทบทางเศรษฐกิจของ Halving Halving มีผลเป็นการส่งอิทธิพลต่อโมเดลทางเศรษฐกิจของ Litecoin ด้วยตัวเหตุการณ์เองทีเดียว กระบวนการดังกล่าวได้โปรแกรมไว้แล้วตั้งแต่แรกแล้วในตัวโปรโตคอลบล็อกเชนเอง เพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อและประกันว่าอุปทาน LTC จะมีอัตราคงที่และสามารถคาดการณ์ได้ แต่ก็คุณอาจถามอีกว่าแล้วกระบวนการนี้มันมีอิทธิพลต่อเศรษฐศาสตร์ของ Litecoin อย่างไรเล่า ความขาดแคลนและการควบคุมภาวะเงินเฟ้อ Halving เป็นปัจจัยที่มีส่วนร่วมให้ Litecoin มีความขาดแคลนมากขึ้นด้วยการลดอัตราที่ระบบมีการออก LTC ใหม่ โดยในช่วงแรก ทุกๆ ประมาณ 2.5 จะมีการออก 50 LTC ในระบบ แต่หลังจาก Halving ในปี 2023 นี้ การออกดังกล่าวจะลดลงเหลือเพียง 6.25 LTC เท่านั้น ซึ่งกลไกดังกล่าวทำให้ Litecoin อยู่ในภาวะเงินฝืด (Deflationary) ต่างจากสกุลเงิน Fiat ดั้งเดิม ซึ่งมีลักษณะเป็นเงินเฟ้อ (Inflationary) อุปทานที่ลดลงดังกล่าวสามารถทำให้เกิดความขาดแคลนได้ ซึ่งมีโอกาสผลักดันราคา LTC สูงขึ้นได้หากอุปสงค์ยังคงที่อยู่ดังเดิมหรือมีการเพิ่มขึ้น แรงจูงใจของนักขุดและความปลอดภัยของเครือข่าย Halving ส่งผลกระทบต่อรางวัลตอบแทนของนักขุด ทำให้การขุด Litecoin ทำกำไรได้น้อยลงเนื่องจากต้นทุนด้านพลังงานในการขุดที่สูง ณ เดือนกรกฎาคม 2023 ต้นทุนด้านพลังงานของการขุด 1 LTC อยู่ที่ประมาณ US$93 และการเกิด Halving อาจเป็นการลดแรงจูงใจ ผลักนักขุดออกไปออกจากเครือข่ายได้ อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของมูลค่าของ Litecoin อาจไปหักกับรางวัลบล็อกที่ลดลงได้ หากราคาไม่สามารถหักกับรางวัลที่ลดลงได้ ความปลอดภัยของเครือข่าย Litecoin อาจได้รับผลกระทบได้ เนื่องจากนักขุดอาจเปลี่ยนไปขุดคริปโทเคอร์เรนซีที่สามารถทำกำไรได้มากกว่า ดังนั้น แม้ว่า Halving จะทำให้เกิดการขาดแคลนได้ แต่ก็มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของเครือข่าย Litecoin ได้เช่นกัน บทวิเคราะห์ย้อนหลังสำหรับ Litecoin Halving Halving ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2015 โดยลดรางวัลบล็อกจาก 50 เป็น 25 LTC เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความกังวลในชุมชนนักขุดเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไร เนื่องจากกลัวว่าการที่เครือข่ายอาจมี Hash Rate ลดลง และประเด็นความปลอดภัยที่ตามมา อย่างไรก็ตาม ความกังวลเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง โดยที่ Hash Rate ไม่เพียงแต่จะฟื้นกลับมาจากการลดลงเพียงเล็กน้อยในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น แต่ยังเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปด้วย ในขณะเดียวกัน ราคาของ Litecoin มีการปรับตัวขึ้นในระดับปานกลางหลังจาก Halving จาก US$3 เป็น US$4 แต่ราคาดังกล่าวก็ไม่ได้พุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอะไรจนกระทั่งปี 2017 ที่มีแรงผลักดันจากปัจจัยในตลาดในวงกว้างด้วย นอกเหนือจากการมีอีเวนต์ Halving เพียงอย่างเดียว ในเดือนธันวาคม 2017 Litecoin ทำได้ตามคาดการณ์ไว้ โดยมีราคาพุ่งถึงจุดสูงสุดที่ US$320 ทีเดียว ราคา Litecoin ก่อนและหลัง Halving ครั้งแรก ที่มา: CoinMarketCap Litecoin Halving ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2019 โดยลดรางวัลบล็อกลงจาก 25 เหลือ 12.5 LTC ช่วงเวลาก่อนเกิด Halving ในครั้งนี้ปรากฏว่าราคาของ Litecoin พุ่งจากประมาณ US$30 ในเดือนมกราคม ไปถึง US$130 ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นตัวชี้ว่าความคาดหวังในช่วงก่อน Halving นั้นมีผลกระทบในทางบวกต่อราคา อย่างไรก็ตาม หลังจาก Halving นั้น ราคากลับมีเทรนด์ Bearish โดยค่อยๆ ลดลงจากไปเหลือประมาณ US$40 ในช่วงสิ้นปี ทั้งนี้ Hash Rate ปรับตัวคล้ายกับในปี 2015 ลดลงเป็นการชั่วคราวหลังจาก Halving แต่ก็รีบาวด์และยังได้เพิ่มขึ้นต่ออีกด้วย โดยเป็นเครื่องแสดงความทนทานและความแข็งแกร่งของเครือข่าย Litecoin ท่ามกลางเหตุการณ์สำคัญด้านอุปทานอย่างนี้ ราคา Litecoin ก่อนและหลัง Halving ครั้งที่ 2 ที่มา: CoinMarketCap ขณะที่ Halving ครั้งต่อไปกำลังจะมาถึง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่อาจมีผลต่อมูลค่า Litecoin ได้อย่างมีนัยสำคัญ ตลาดคริปโตก็กำลังมีความคาดหวังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยวาฬ Litecoin ต่างๆ ก็ได้สร้างแรงกระเพื่อมด้วยการซื้อกว่า 590,000 LTC เป็นมูลค่าประมาณ 59 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเพียงสัปดาห์เดียว ยิ่งเพิ่มความร้อนแรงเข้าไปอีก การเข้าซื้อขนานใหญ่นี้อาจเป็นสัญญาณแนวโน้มในทาง Bullish จากทางนักลงทุนรายใหญ่ก็ได้ ซึ่งก็ได้สร้างความคาดหวังมากยิ่งขึ้นไปอีกว่า Halving ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นอาจมีผลต่อตลาดได้อย่างไรบ้าง Bitget: สหายคู่ใจของคุณสำหรับ Litecoin Halving และการเดินทางต่อไปหลังจากนั้น ด้วยการที่อีเวนต์ Halving กำลังจะมาถึงแล้ว การสามารถเป็นผู้ก้าวนำเทรนด์ตลาดยิ่งมีความสำคัญขึ้นไปอีก Bitget แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตชั้นนำของโลก นำเสนอข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ พร้อมกับบทวิเคราะห์แบบครบครันเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับคุณ ให้สามารถทำการตัดสินใจลงทุนได้อย่างรู้เท่าทันข้อมูล นอกจากนี้ ประเภท Order ขั้นสูงของเรา เช่น Stop-Limit Order ยังสามารถช่วยคุ้มครองการลงทุนของคุณจากความผันผวนของตลาดที่ไม่คาดคิดได้ด้วยการตั้งค่าเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้าสำหรับ Order อีกด้วย วางกลยุทธ์สำหรับ Litecoin Halving ไปกับ Bitget - การเทรด Spot: ข้อมูลในอดีตชี้ว่าราคาของ Litecoin มักมีการพุ่งขึ้นในช่วงก่อนที่จะเกิด Halving จึงสามารถใช้ประโยชน์จากเทรนด์นี้ได้ด้วยการซื้อ Litecoin เพื่อเล็งว่าราคาอาจมีการปรับตัวขึ้น หากต้องการลงทุนใน Litecoin ก็สามารถใช้เวลาเพียง 2 นาทีในการสร้างบัญชีที่ Bitget แล้วเริ่ม เทรด Litecoin ได้เลย! - การเทรด Futures: คุณสามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มเทรด Futures ที่แข็งแกร่งของ Bitget ได้ด้วยการ Hedge ความเสี่ยงที่ราคาอาจมีการร่วงลงได้ หากคุณคาดการณ์ว่าราคา Litecoin จะร่วงลงหลังจาก Halving โปรดพิจารณา Short สัญญา Litecoin เพื่อหาโอกาสที่จะได้ประโยชน์จากเทรนด์ราคาขาลงนั่นเอง หากพร้อมลุย Litecoin Futures บน Bitget แล้ว เทรดเลย! - กระจายการลงทุน: แม้ Litecoin เป็นดาวเด่นในอีเวนต์ Halving แต่คริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ บน Bitget ก็อาจมีการเคลื่อนไหวของราคาที่น่าสนใจเช่นกัน คุณวางใจได้เลย เพราะว่าการเทรด Spot บน Bitget นั้นมีคู่เทรดกว่า 500 คู่ให้คุณเลือกเทรดได้ ซึ่งทั้งหมดมีสภาพคล่องในระดับสูง คุณสามารถกระจายการลงทุนได้เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพื่อให้มีโอกาสในการทำกำไรจากสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ - ติดตามให้รู้เท่าทันข้อมูลอยู่เสมอ: Bitget ทุ่มเททำการสร้างชุมชนการเทรดที่รู้เท่าทันข้อมูลด้วยการเสนอแหล่งข้อมูลสำหรับการเรียนรู้และบทวิเคราะห์ตลาดมากมาย โดย Bitget Academy ให้บริการคู่มือฉบับสมบูรณ์ เคล็ดลับที่นำไปใช้ได้จริง และการอัปเดตตลาดล่าสุด ซึ่งครอบคลุมทุกเรื่องตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับบล็อกเชนไปจนถึงกลยุทธ์การเทรดขั้นสูง นอกจากนี้ Bitget Insights ซึ่งมีให้บริการเฉพาะบนแอปมือถือของเรา ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางที่นักเทรดที่มีอิทธิพลและผู้เชี่ยวชาญที่ได้ลงทะเบียนไว้สามารถแชร์บทวิเคราะห์ทางการเงินและมุมมองของตนเกี่ยวกับตลาดได้ด้วย ขณะที่เรากำลังมุ่งหน้าไปหา Litecoin Halving ปี 2023 ในรอบนี้ Bitget เตรียมพร้อมแล้วที่จะเป็นพาร์ทเนอร์ที่คุณเชื่อถือได้ในการเดินทางสายคริปโตที่เต็มไปด้วยความสุขความบันเทิงอย่างนี้ พร้อมแล้วสำหรับกำไรและโอกาสที่อาจรอเราอยู่ข้างหน้า ในสายธารแห่งการเทรดคริปโทเคอร์เรนซีอันน่าตื่นตาตื่นใจ! ข้อสงวนสิทธิ์ ความคิดเห็นที่อยู่ในบทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น บทความนี้ไม่ใช่การสนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริการใดๆ ที่ได้มีการเอ่ยถึง รวมถึงไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน การเงิน หรือการเทรด ผู้ใช้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองก่อนตัดสินใจลงทุน