ที่เกี่ยวข้องกับเหรียญ
เครื่องคำนวณราคา
ประวัติราคา
การคาดการณ์ราคา
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
คู่มือการซื้อเหรียญ
หมวดหมู่คริปโต
เครื่องคำนวณกำไร
ที่เกี่ยวข้องกับการเทรด
ซื้อ/ขาย
การฝาก/การถอน
Spot
Margin
USDT-M Futures
Coin-M Futures
บอทเทรด
Copy Trading
Earn
Pre-Market
ราคา BitcoinBTC
คุณรู้สึกอย่างไรบ้างเกี่ยวกับ Bitcoin ในวันนี้
ราคาของ Bitcoin วันนี้
ราคาสูงสุดของ BTC คือเท่าไร
ราคาสูงสุดของ BTC คือเท่าไร
ทำไมราคา BTC ผันผวนอยู่ตลอด ปัจจัยใดบ้างส่งผลต่อผลการดำเนินงานของราคา BTC
การคาดการณ์ราคา Bitcoin
ช่วงไหนเป็นจังหวะที่ดีในการซื้อ BTC ตอนนี้ควรซื้อหรือขาย BTC
ราคา BTC จะเป็นเท่าใดในปี 2025
ราคา BTC จะเป็นเท่าใดในปี 2030
ประวัติราคา Bitcoin (USD)
ข้อมูลตลาดของ Bitcoin
เรตติ้ง Bitcoin
เกี่ยวกับ Bitcoin (BTC)
Bitcoin (ใช้ตัวย่อว่า BTC และใช้สัญลักษณ์ ₿) เป็นคริปโทเคอร์เรนซีที่มีชื่อเสียงที่สุดและมีการเทรดกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดมานานกว่าทศวรรษ โดยหน่วยที่เล็กที่สุดของ Bitcoin เรียกว่า “Satoshi” หรือ “Sat” มีค่าเท่ากับ 0.00000001 Bitcoin
แม้จะมีชื่อว่า Bitcoin แต่ก็ไม่ใช่เหรียญที่จับต้องได้จริง โดยอยู่ในรูปของข้อมูลดิจิทัลบนบล็อกเชนเท่านั้น ซึ่งเป็นบัญชีแยกประเภท (Ledger) แบบกระจายศูนย์ที่บันทึกธุรกรรม Bitcoin ทั้งหมดอย่างปลอดภัย ผู้ใช้สามารถจัดเก็บ Bitcoin ไว้ใน Wallet ดิจิทัล ซึ่งมาในรูปแบบซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์เพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น
ในฐานะผู้บุกเบิกตลาดคริปโทเคอร์เรนซี Bitcoin ต้องเผชิญกับข้อกังขาด้านมูลค่า อย่างไรก็ตาม Bitcoin สามารถบรรลุหรือเกินความคาดหวังอย่างต่อเนื่อง โดยทำ All Time High ที่เกือบ $100,000 ในเดือนพฤศจิกายน 2024
Bitcoin (BTC) คืออะไร
Bitcoin (BTC) คือสกุลเงินดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ที่ทำงานอย่างอิสระจากหน่วยงานส่วนกลางหรือตัวกลาง เช่น ธนาคารหรือรัฐบาล ช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งและรับมูลค่าได้ทั่วโลกด้วยค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่ต่ำ โดย Bitcoin สร้างขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งเป็นบัญชีแยกประเภท (Ledger) แบบกระจายศูนย์ที่บันทึกธุรกรรมทั้งหมดอย่างปลอดภัยและโปร่งใส
Bitcoin มักถูกมองว่าเป็นคริปโทเคอร์เรนซีแรก และได้สร้างชื่อให้กับตัวเองจนกลายเป็นรากฐานสำคัญของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีทั้งหมด โดยมีคุณสมบัติที่โดดเด่น ได้แก่ การกระจายศูนย์ ความขาดแคลน (Scarcity) (มีอุปทานจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ) ความโปร่งใส และการไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ของประวัติธุรกรรม
Bitcoin สร้างขึ้นมาเมื่อไร
Bitcoin สร้างขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 มกราคม 2009 เมื่อมีการขุดบล็อกแรกที่เรียกว่าบล็อกต้นกำเนิด (Genesis Block) หรือ Block 0 เหตุการณ์นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของบล็อกเชน Bitcoin และระบบคริปโทเคอร์เรนซีแบบกระจายศูนย์ระบบแรกของโลก โดยบล็อกต้นกำเนิด (Genesis Block) มีข้อความว่า “The Times 03/Jan/2009 Chancellor on brink of second bailout for banks” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงจุดประสงค์ของ Bitcoin ในฐานะทางเลือกจากระบบการเงินแบบดั้งเดิม
ใครเป็นผู้สร้าง Bitcoin
Bitcoin สร้างขึ้นโดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า Satoshi Nakamoto โดย Nakamoto ได้เปิดตัว Bitcoin สู่โลกผ่านการเผยแพร่ Whitepaper ที่มีชื่อว่า “Bitcoin: A Peer-to-Peer Electronic Cash System ” ในเดือนตุลาคม 2008
แม้จะมีความพยายามอย่างมากในการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของ Nakamoto แต่จนถึงปี 2024 บุคคลหรือกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังนามแฝงนี้ก็ยังคงไม่เป็นที่ทราบกันแน่ชัด Satoshi Nakamoto ได้พัฒนาและสื่อสารกับชุมชน Bitcoin ในช่วงเริ่มแรกอย่างแข็งขัน จนกระทั่งเขาถอนตัวจากโปรเจกต์ในปี 2010 โดยปล่อยให้อนาคตของโปรเจกต์อยู่ในมือของนักพัฒนาและชุมชนในวงกว้างมากขึ้น
ประวัติความเป็นมาของ Bitcoin
ประวัติความเป็นมาของ Bitcoin โดดเด่นด้วยเหตุการณ์สำคัญๆ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น:
2008 – เปิดตัว Bitcoin
● Satoshi Nakamoto เผยแพร่ Whitepaper ของ Bitcoin ในวันที่ 31 ตุลาคม 2008 โดยเสนอระบบเงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบกระจายศูนย์
2009 – เหตุการณ์สำคัญของ Bitcoin
● บล็อกต้นกำเนิด (Genesis Block) หรือ Block 0 ถูกขุดเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2009
● ธุรกรรมแรกของ Bitcoin เกิดขึ้นระหว่าง Satoshi Nakamoto และ Hal Finney เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2009
2010 – ธุรกรรมแรกของ Bitcoin
● ธุรกรรมแรกของ Bitcoin ในโลกความเป็นจริงเกิดขึ้นเมื่อมีการใช้ 10,000 BTC ซื้อพิซซ่า 2 ถาด (ปัจจุบันมีการเฉลิมฉลองให้วันที่ 22 พฤษภาคม เป็น Bitcoin Pizza Day )
● Bitcoin มีมูลค่าทางการเงินเป็นครั้งแรกเมื่อมีการเทรดบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนออนไลน์ในราคาไม่ถึง $0.003
2011 – การเติบโตของคริปโต
● คริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ อย่าง Litecoin (LTC) เกิดขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากความสำเร็จของ Bitcoin
● Bitcoin มีมูลค่าขยับไปเท่ากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก
2013 – ความเฟื่องฟูของ Bitcoin
● ราคา Bitcoin มีการเติบโตครั้งใหญ่เป็นครั้งแรก โดยแตะระดับ $1,000
● สาธารณชนให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปกับการตรวจสอบจากหน่วยงานด้านการกำกับดูแล ทำให้บทบาทของ Bitcoin ในระบบการเงินเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น
2017 – การพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin
● ราคา Bitcoin มีการพุ่งขึ้นอย่างมาก โดยทำ All Time High ที่เกือบ $20,000 ในเดือนธันวาคม
● การเปิดตัว Bitcoin Futures จาก CME และ CBOE ทำให้มีการใช้งานในกระแสหลักเพิ่มมากขึ้น
2020-2021 – การลงทุนใน Bitcoin
● การลงทุนของสถาบันใน Bitcoin เติบโตขึ้น โดยมีบริษัทอย่าง Tesla และ MicroStrategy ซื้อ BTC ในจำนวนมาก Bitcoin พุ่งแตะระดับ $69,000 ในเดือนพฤศจิกายน 2021
ปีที่ผ่านๆ มา – วิวัฒนาการใหม่ของ Bitcoin
● ในปี 2023 มีการเปิดตัว Ordinals หรือ Non-Fungible Token(NFT) อย่างเป็นทางการบนบล็อกเชน Bitcoin
● Bitcoin ยังคงเผชิญกับความท้าทายต่างๆ เช่น การตรวจสอบจากหน่วยงานด้านการกำกับดูแล การแข่งขันจากบล็อกเชนใหม่ๆ และข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากกระบวนการขุดที่ใช้พลังงานมาก และถึงแม้จะมีความผันผวน แต่ก็ยังคงเป็นคริปโทเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดตามมูลค่าตามราคาตลาด
Bitcoin ทำงานอย่างไร
Bitcoin ช่วยให้บุคคลสามารถส่งและรับการชำระเงินได้โดยไม่ต้องพึ่งพาธนาคารหรือตัวกลาง ทำงานบนเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งเป็นบัญชีแยกประเภท (Ledger) ในรูปแบบดิจิทัลที่มีความปลอดภัยและเป็นแบบกระจายศูนย์ที่บันทึกธุรกรรมทั้งหมดอย่างโปร่งใส โดยบล็อกเชนได้รับการบำรุงรักษาโดยเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Node) ที่กระจายอยู่ทั่วโลก ซึ่งป้องกันไม่ให้มีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งควบคุมระบบได้ ผู้ใช้จะเก็บ Bitcoin ของตนไว้ใน Wallet ดิจิทัล ซึ่งทำให้ปลอดภัยด้วย Public Key (ใช้สำหรับรับ Bitcoin) และ Private Key (ใช้สำหรับอนุมัติธุรกรรม)
ตัวอย่างเช่น หาก Tom ต้องการส่ง 1 BTC ให้กับ Anna เครือข่ายจะยืนยันสินทรัพย์ของ Tom และลงนามธุรกรรมด้วย Private Key ของเขา แล้วธุรกรรมนี้ก็จะ Broadcast ไปยังเครือข่าย ที่ซึ่งนักขุดจะแข่งขันกันแก้ปริศนาการเข้ารหัส นักขุดคนแรกที่ไขปริศนาได้จะตรวจสอบธุรกรรม เพิ่มธุรกรรมนั้นลงในบล็อกเชน และรับ Bitcoin ที่เพิ่งสร้างขึ้นเป็นรางวัล กระบวนการนี้ยืนยันธุรกรรมและรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย
ทำไมราคา Bitcoin ถึงมีความผันผวน
ความผันผวนของราคา Bitcoin อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เหตุผลหลักประการหนึ่งคืออุปทานที่จำกัด ซึ่งมีเพียง 21 ล้าน Bitcoin เท่านั้น ความขาดแคลน (Scarcity) นี้หมายความว่าการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ อาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นราคาอย่างรวดเร็วได้ ในขณะที่ความต้องการที่ลดลงก็อาจทำให้ราคาลดลงอย่างรวดเร็วได้เช่นกัน ปัจจัยอีกประการหนึ่งคืออิทธิพลของนักลงทุนรายใหญ่ที่เรียกว่า “วาฬ” ซึ่งถือครอง Bitcoin อยู่จำนวนมาก เมื่อวาฬตัดสินใจขายสินทรัพย์ที่ตนถืออยู่ในจำนวนมาก อุปทานที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันก็อาจทำให้ราคาลดลงอย่างรวดเร็ว
ขนาดตลาดของ Bitcoin นั้นค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับสินทรัพย์แบบดั้งเดิมอย่างทองคำ และเนื่องจากตลาดมีขนาดเล็ก แม้แต่ธุรกรรมขนาดเล็กน้อยก็สามารถส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงราคาที่เห็นได้ชัดได้ สื่อและข่าวด้านการกำกับดูแลเองก็มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ราคา Bitcoin แกว่งได้ นอกจากนี้ มูลค่าของ Bitcoin ยังขับเคลื่อนโดยการเก็งกำไร เพราะไม่ได้สร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงเหมือนอย่างการลงทุนแบบดั้งเดิม ประการสุดท้าย เนื่องจากตลาดคริปโทเคอร์เรนซียังค่อนข้างใหม่ ราคาของ Bitcoin จึงอยู่ในช่วงระยะการค้นพบ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่บ่อยและไม่สามารถคาดเดาได้ เมื่อเวลาผ่านไป และเมื่อตลาดเติบโตเต็มที่ การแกว่งของราคาเช่นนี้อาจลดความรุนแรงลง
อะไรทำให้ Bitcoin มีมูลค่า
Bitcoin เป็นมากกว่าแค่สกุลเงินดิจิทัล อันที่จริง Bitcoin มีคุณสมบัติครบถ้วนตามคำนิยามของเงิน ประการแรกคือความขาดแคลน (Scarcity) โดยจะมีเพียง 21 ล้าน Bitcoin เท่านั้น จึงหายากและมีค่า ซึ่งคล้ายกันกับทองคำ ประการที่สอง Bitcoin ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน โดยมีผู้ค้าและแพลตฟอร์มต่างๆ ทั่วโลกที่ยอมรับ Bitcoin เป็นสินค้าและบริการเพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงการใช้งานจริงสำหรับธุรกรรมในชีวิตจริง
นอกจากนี้ยังเริ่มทำหน้าที่เป็นหน่วยวัดมูลค่า โดยมีธุรกิจและบุคคลต่างๆ กำหนดราคาสินค้าเป็น Bitcoin แม้ว่ามูลค่าอาจมีการผันผวนอย่างมากก็ตาม ประการสุดท้าย Bitcoin ถือเป็นที่เก็บรักษามูลค่า เนื่องจากลักษณะของการกระจายศูนย์ ความปลอดภัย และอุปทานที่จำกัด ทำให้เป็นวิธีการที่เชื่อถือได้ในการรักษาความมั่งคั่งในระยะยาว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้คนมักเรียก Bitcoin ว่า “ทองคำดิจิทัล” ซึ่งเป็นวิธีสมัยใหม่ในการถือครองและเพิ่มมูลค่าในภูมิทัศน์ทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
Bitcoin Halving ครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อไร
Bitcoin Halving คืออะไร
Bitcoin จะมีเหตุการณ์สำคัญที่เรียกว่า “Halving ” เกิดขึ้นประมาณทุกๆ 4 ปี เหตุการณ์นี้จะลดรางวัลจากการขุดบล็อกใหม่ลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นการทำให้อัตราการผลิต Bitcoin ใหม่ช้าลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ Halving จะดำเนินต่อไปจนกว่าอุปทานทั้งหมดของ Bitcoin จะถึงขีดจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในราวปี 2140 ถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบ Bitcoin โดยมีจุดประสงค์เพื่อควบคุมอุปทานของสกุลเงิน
Halving ในอดีต
● Halving ครั้งแรก (2012): เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ทำให้รางวัลบล็อกลดลงจาก 50 BTC เหลือ 25 BTC ราคาในขณะนั้นอยู่ที่ประมาณ $12 และเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนไปแตะระดับ $1,100 ในช่วงปลายปี 2013
● Halving ครั้งที่ 2 (2016): เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม โดยลดรางวัลลงจาก 25 BTC เหลือ 12.5 BTC ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ประมาณ $650 ในวันที่เกิด Halving และพุ่งขึ้นจนถึงเกือบ $20,000 ภายในเดือนธันวาคม 2017
● Halving ครั้งที่ 3 (2020): เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม โดยลดรางวัลลงจาก 12.5 BTC เหลือ 6.25 BTC ราคาอยู่ที่ประมาณ $8,600 ในขณะนั้นและต่อมาก็เพิ่มขึ้นจนทำ All Time High ที่ $69,000 ในเดือนพฤศจิกายน 2021
● Halving ครั้งที่ 4 (2024): เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายน ทำให้รางวัลบล็อกลดลงเหลือ 3.125 BTC ราคาในช่วง Halving อยู่ที่ประมาณ $73,800 และราคาของ Bitcoin เกือบถึง $100,000 ในเวลาต่อมาภายในปีเดียวกัน
Halving ปี 2028
คาดว่า Bitcoin Halving ครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในปี 2028 ซึ่งจะทำให้รางวัลบล็อกลดลงจาก 3.125 BTC เหลือ 1.5625 BTC ไม่มีกำหนดวันที่แน่นอนของ Halving เนื่องจากขึ้นอยู่กับความสูงของบล็อก (Block Height) ผู้ร่วมตลาดกำลังคาดเดากันว่าการลดลงของอุปทานนี้อาจส่งผลต่ออุปสงค์และราคาของ Bitcoin อย่างไร
Bitcoin Halving ส่งผลต่อราคา BTC หรือไม่
ที่ผ่านๆ มา Bitcoin Halving ส่งผลกระทบต่อราคาเป็นอย่างมาก โดยมักส่งผลให้เกิด Bull Run ครั้งใหญ่ และด้วยการลดอัตราการสร้าง Bitcoin ใหม่ Halving จึงทำให้ Bitcoin หายากขึ้น ส่งผลให้ Bitcoin น่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่เห็นคุณค่าของอุปทานที่จำกัดนี้ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยอื่นๆ เช่น สภาวะตลาด เทรนด์เศรษฐกิจมหภาค และอัตราการใช้งานยังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคาของ Bitcoin อีกด้วย
แม้ว่าเทรนด์ในอดีตจะชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างอีเวนต์ Halving และการเติบโตของราคา แต่ผลการดำเนินงานในอดีตก็ไม่ได้รับประกันถึงผลลัพธ์ในอนาคต Halving ในปี 2028 น่าจะดึงดูดความสนใจและการเก็งกำไรเป็นอย่างมาก ทำให้เป็นเหตุการณ์สำคัญสำหรับทั้งผู้ที่ชื่นชอบ Bitcoin และนักลงทุน
กรณีการนำไปใช้งานที่เป็นไปได้สำหรับ Bitcoin
● สื่อกลางดิจิทัลในการแลกเปลี่ยน: Bitcoin ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมโดยตรงไม่ต้องผ่านตัวกลาง ทำให้เหมาะสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าและการประมวลผลที่รวดเร็วกว่า
● ที่เก็บรักษามูลค่า: ในฐานะที่ Bitcoin เป็น “ทองคำดิจิทัล” จึงมีการนำมาใช้เป็นการป้องกันความเสี่ยง (Hedge) ต่อเงินเฟ้อและใช้รักษาความมั่งคั่งเนื่องจากความขาดแคลน (Scarcity) และการเป็นอิสระจากระบบการเงินแบบดั้งเดิมของ Bitcoin
● การผสานการทำงานกับ Fintech และ IoT: Bitcoin สามารถขับเคลื่อนโซลูชัน Fintech ที่เป็นนวัตกรรมและธุรกรรมการเงินขนาดย่อมของ IoT ทำให้สามารถชำระเงินได้โดยอัตโนมัติและทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ
● การเพิ่มขีดความสามารถและโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงิน: Bitcoin ให้การเข้าถึงทางการเงินแก่ประชากรที่ไม่ได้รับบริการทางการเงิน (Unbanked) ช่วยให้สามารถออมเงินและทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องพึ่งพาระบบธนาคารแบบดั้งเดิม
การขุด Bitcoin คืออะไร
การขุด Bitcoin คือกระบวนการสร้าง Bitcoin ใหม่และยืนยันธุรกรรมบนเครือข่าย Bitcoin โดยใช้ระบบที่เรียกว่า Proof of Work (PoW) ซึ่งนักขุดใช้คอมพิวเตอร์อันทรงพลังในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ยากๆ และเมื่อนักขุดแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ พวกเขาก็จะสามารถเพิ่มบล็อกธุรกรรมให้กับบล็อกเชน ซึ่งก็คือบัญชีแยกประเภทสาธารณะ (Public Ledger) ของ Bitcoin โดยเพื่อเป็นรางวัล นักขุดที่แก้ไขปัญหาได้เป็นคนแรกจะได้รับ Bitcoin ที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่และค่าธรรมเนียมธุรกรรมจากบล็อก อย่างไรก็ตาม การขุดต้องใช้กำลังการประมวลผลและพลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก จนทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ การขุด Bitcoin ยังช่วยปกป้องเครือข่ายจากการโจมตีได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น การโจมตี 51% อาจเกิดขึ้นได้หากมีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งควบคุมกำลังการขุดเกินครึ่งหนึ่งของเครือข่าย ซึ่งจะทำให้พวกเขาสามารถย้อนกลับหรือบล็อกธุรกรรมได้ ทำให้ความน่าเชื่อถือในระบบลดลง อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายและกำลังการประมวลผลมหาศาลที่จำเป็นในการดำเนินการโจมตีรูปแบบดังกล่าว ทำให้การโจมตีนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้บนเครือข่าย Bitcoin
Bitcoin ปะทุขึ้นเมื่อไร
การผงาดขึ้นสู่ความโดดเด่นของ Bitcoin มักหมายถึงตอนที่ Bitcoin “ปะทุขึ้น” ซึ่งเกิดขึ้นในเฟสสำคัญต่างๆ:
● 2013 - การเบรกทะลุกรอบครั้งใหญ่ครั้งแรก: Bitcoin ได้รับความสนใจอย่างมากเมื่อราคากระโดดขึ้นจากไม่ถึง $100 ไปอยู่เหนือ $1,000 ในช่วงปลายปี 2013 ซึ่ง Rally ครั้งใหญ่ครั้งแรกนี้ขับเคลื่อนโดยการใช้งานในระยะแรกเริ่ม การรายงานข่าวที่เพิ่มมากขึ้น และความสนใจของสาธารณชนที่เพิ่มมากขึ้น
● 2017 – ความนิยมในกระแสหลัก: Bitcoin เข้าสู่กระแสหลักอย่างแท้จริงในปี 2017 โดยราคาพุ่งสูงขึ้นจากประมาณ $1,000 ในเดือนมกราคมไปเป็นเกือบ $20,000 ภายในเดือนธันวาคม การเพิ่มขึ้นอย่างมากนี้ได้รับแรงกระตุ้นจากความกระตือรือร้นของสาธารณชน ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ Initial Coin Offering (ICO) และจุดเริ่มต้นของความสนใจของสถาบันในคริปโทเคอร์เรนซี
● 2020-2021 - กลุ่มสถาบันเข้ามาใช้งาน: ช่วงเวลาตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2021 ถือเป็นหมุดหมายใหม่ เนื่องจากสถาบันรายใหญ่อย่าง Tesla และ MicroStrategy ต่างลงทุนใน Bitcoin ในจำนวนมาก ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและส่งผลให้ราคาทำ All Time High ที่ $69,000 ในเดือนพฤศจิกายน 2021
● 2024 - เกือบถึง $100,000: ในปี 2024 ราคาของ Bitcoin ได้เข้าใกล้ระดับไม่เคยไปถึงมาก่อนที่ $100,000 การพุ่งขึ้นของราคานี้ขับเคลื่อนด้วยการอนุมัติ Bitcoin Spot ETF, การใช้งานที่เพิ่มขึ้นจากกระแสหลักและสถาบัน และปัจจัยทางการเมือง รวมถึงจุดยืนที่สนับสนุนคริปโตจากบุคคลสำคัญอย่าง Donald Trump
ฉันสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดของ Bitcoin ได้จากที่ไหน
หากคุณกำลังมองหาข้อมูลอัปเดตของ Bitcoin และข่าวสารคริปโตล่าสุด Bitget ก็ช่วยคุณได้ โดย Bitget News นำเสนอข้อมูลเชิงลึกของตลาด เทรนด์ และข้อมูลอัปเดตที่สำคัญในโลกคริปโตแบบเรียลไทม์
พร้อมที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมแล้วใช่ไหม Bitget Academy มอบคู่มือที่ทำตามได้ง่าย กลยุทธ์การเทรด และข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญสำหรับทั้งนักเทรดมือใหม่และนักเทรดที่มีประสบการณ์
เทคนิคการวิเคราะห์กราฟ Bitcoin ที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง
การวิเคราะห์กราฟมีความสำคัญต่อความเข้าใจในการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin และการตัดสินใจเทรดอย่างมีข้อมูลครบถ้วน โดยกราฟ Bitcoin แบบเรียลไทม์จะมอบข้อมูลอัปเดตแบบนาทีต่อนาทีให้แก่นักเทรดที่แอคทีฟ ในขณะที่กราฟเทรดนำเสนอการวิเคราะห์ในเชิงลึกยิ่งขึ้นด้วยอินดิเคเตอร์อย่าง RSI และ MACD ส่วนกราฟราคาในอดีตมีประโยชน์ต่อการระบุเทรนด์ระยะยาวและการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ นอกจากนี้ เครื่องมือต่างๆ เช่น กราฟแท่งเทียน, ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average), RSI และปริมาณมีความสำคัญต่อการระบุเทรนด์และการกลับตัว
สำหรับการตีกราฟที่แม่นยำและข้อมูลอัปเดตแบบเรียลไทม์ Bitget มีเครื่องมือที่ครอบคลุมเพื่อช่วยนักเทรดในการรับมือกับการปรับตัวของราคา Bitcoin และทำการเทรดที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น
เริ่มลงทุนโดยการไปที่หน้าการเทรด Bitcoin บน Bitget ราคา Bitcoin มีการอัปเดตและดูได้แบบเรียลไทม์บน Bitget
BTC เป็นสกุลเงินท้องถิ่น
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
วิธีซื้อ Bitcoin(BTC)
สร้างบัญชี Bitget ของคุณแบบฟรีๆ
ยืนยันบัญชีของคุณ
ซื้อ Bitcoin (BTC)
เทรด BTC Perpetual Futures
หลังจากทำการสมัครบน Bitget และซื้อ USDT หรือโทเค็น BTC สำเร็จแล้ว คุณสามารถเริ่มเทรดอนุพันธ์ รวมถึง BTC Futures และการเทรด Margin เพื่อเพิ่มรายได้ของคุณได้เลย
ราคาปัจจุบันของ BTC คือ $93,957.14 โดยมีการเปลี่ยนแปลงราคา 24 ชั่วโมงอยู่ที่ -1.57% นักเทรดสามารถทำกำไรได้จากการเปิด Long หรือ Short ใน BTC Futures
เข้าร่วม BTC Copy Trading โดยการติดตาม Elite Trader
ข่าว Bitcoin
ข้อมูลอัปเดต Bitcoin เพิ่มเติมซื้อเพิ่ม
คำถามที่พบบ่อย
ราคา Bitcoin วันนี้อยู่ที่เท่าไร
1 Bitcoin มีมูลค่าเป็นเงินสดเท่าไร
มี Bitcoin ทั้งหมดเท่าไร
การคาดการณ์ราคาสำหรับ Bitcoin ในปี 2025 เป็นเช่นไร
Bitcoin จะมีมูลค่าเท่าไรในปี 2030
Bitcoin เป็นการลงทุนที่ปลอดภัยแค่ไหน
ราคาปัจจุบันของ Bitcoin คือเท่าไร
ปริมาณการเทรด 24 ชั่วโมงของ Bitcoin คือเท่าไร
All Time High ของ Bitcoin คือเท่าไร
ฉันสามารถซื้อ Bitcoin บน Bitget ได้หรือไม่
ฉันสามารถรับรายได้คงที่จากการลงทุนใน Bitcoin ได้ไหม
ฉันจะซื้อ Bitcoin ด้วยค่าธรรมเนียมต่ำที่สุดได้จากที่ไหน
ซื้อ Bitcoin (BTC) ได้ที่ไหน
ส่วนวิดีโอ — ยืนยันฉับไว เทรดได้รวดเร็ว
แหล่งข้อมูล BTC
แท็ก:
Social Data ของ Bitcoin
ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา คะแนนความเชื่อมั่นบนโซเชียลมีเดียสำหรับ Bitcoin อยู่ที่ 3.4 และความเชื่อมั่นบนโซเชียลมีเดียต่อเทรนด์ราคาของ Bitcoin มีลักษณะ Bullish ทั้งนี้ คะแนนโซเชียลมีเดียโดยรวมของ Bitcoin อยู่ที่ 824,235,078 ซึ่งถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 1 จากบรรดาคริปโทเคอร์เรนซีทั้งหมด
จากข้อมูลของ LunarCrush ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการกล่าวถึงคริปโทเคอร์เรนซีบนโซเชียลมีเดียทั้งหมด ครั้ง โดย Bitcoin ได้รับการกล่าวถึงด้วยอัตราความถี่ 38.87% ซึ่งถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 1 จากบรรดาคริปโทเคอร์เรนซีทั้งหมด
ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันทั้งหมด 749,600 รายที่พูดคุยเกี่ยวกับ Bitcoin โดยมีการกล่าวถึง Bitcoin ทั้งหมด 411,278 ครั้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ พบว่าจำนวนผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกัน เพิ่มขึ้น ถึง 2% และจำนวนการกล่าวถึงทั้งหมด ลดลง ถึง 1%
บน Twitter มี Tweet ที่กล่าวถึง Bitcoin ทั้งหมด 10857 รายการในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยใน Tweet ดังกล่าว มี 50% กำลัง Bullish กับ Bitcoin, 10% กำลัง Bearish กับ Bitcoin และ 40% อยู่ในสภาวะเป็นกลางกับ Bitcoin
ใน Reddit มี 3336 โพสต์ที่กล่าวถึง Bitcoin ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้า จำนวนการกล่าวถึงลดลงถึง 6%
ภาพรวมโซเชียลทั้งหมด
3.4