การคำนวณ Funding Rate ของ Perpetual Futures

Funding Rate คืออะไร

เพื่อให้แน่ใจว่าราคา Perpetual Futures จะสะท้อนถึงราคาตลาด Spot ของสินทรัพย์อ้างอิง แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนจึงนำกลไก Funding Rate มาใช้ ซึ่งระบบนี้อำนวยความสะดวกในการชำระเงินด้วยเงินสดแบบเป็นระยะระหว่างผู้ถือ Long และ Short Position โดยผลักดันราคา Futures ให้เข้าใกล้ราคาดัชนี เมื่อ Funding Rate เป็นบวก Long Position ก็จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม Funding ให้แก่ Short Position ในทางกลับกัน เมื่อ Funding Rate เป็นลบ Short Position ก็จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม Funding ให้แก่ Long Position โปรดทราบว่า Bitget ไม่ได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ เนื่องจากบทบาทของ Bitget คือการอำนวยความสะดวกในการชำระเงินระหว่างนักเทรดเท่านั้น

โดยทั่วไปแล้ว Bitget จะชำระราคาค่าธรรมเนียม Funding ทุก 8 ชั่วโมง ณ เวลา 7:00 น., 15:00 น. และ 23:00 น. (เวลาไทย) ตามลำดับ โดย Futures บางรายการอาจชำระราคาค่าธรรมเนียม Funding ทุก 2 หรือ 4 ชั่วโมง ซึ่งความถี่ในการชำระราคาอาจมีการปรับเปลี่ยนแบบไดนามิกตามสภาวะตลาด

การคำนวณ Funding Rate

Funding Rate (F) = Clamp{[average premium index (P) + clamp(interest rate (I) − average premium index (P), -0.05%, 0.05%)], min. funding rate, max. funding rate}

Funding Rate ประกอบด้วย 2 ส่วน: อัตราดอกเบี้ย และ Premium Index

Bitget คำนวณอัตราดอกเบี้ย (I) และ Premium Index เฉลี่ย (P) ทุกนาที จากนั้นจึงคำนวณค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักโดยอิงจากข้อมูลทุกนาทีในช่วง N ชั่วโมง ยิ่งใกล้ถึงเวลาชำระราคา ค่า Premium Index ล่าสุดก็จะยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้น

สำหรับช่วงเวลาการชำระราคาค่าธรรมเนียม Funding 8 ชั่วโมง ระบบจะคำนวณ Premium Index เฉลี่ย (P) ดังนี้: (Premium Index 1 × 1 + Premium Index 2 × 2 + ... + Premium Index 480 × 480) ÷ (1 + 2 + ... + 480)

แต่ละชั่วโมงจะเท่ากับช่วงเวลา 60 นาที ซึ่งสำหรับช่วงเวลาการชำระราคาค่าธรรมเนียม Funding 8 ชั่วโมง ก็จะมีตำแหน่งข้อมูล 480 ตำแหน่ง (8 × 60) โดยน้ำหนักเป็นไปตามลำดับเลขคณิต (1, 2, 3, …, 480) ซึ่งมีผลต่างร่วมคือ 1

ระบบจะคำนวณ Funding Rate โดยใช้อัตราดอกเบี้ยทุก N ชั่วโมง และองค์ประกอบ Premium/Discount โดยมีการใส่ Damper +/-0.05% ไว้ด้วย

N = ช่วงเวลาการชำระราคาค่าธรรมเนียม Funding โดยหากมีการชำระราคาค่าธรรมเนียม Funding ทุก 8 ชั่วโมง ก็แปลว่า N = 8 และหากมีการชำระราคาค่าธรรมเนียม Funding ทุกชั่วโมง ก็แปลว่า N = 1

ดังนั้น หาก (I–P) อยู่ในช่วง +/-0.05% ก็แสดงว่า F=P+(I–P)=I หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ Funding Rate จะเท่ากับอัตราดอกเบี้ย

อัตราดอกเบี้ย (I)

อัตราดอกเบี้ย (I) = 0.03% ÷ ช่วงเวลาค่าธรรมเนียม Funding

ระยะเวลาค่าธรรมเนียม Funding = 24 ÷ ช่วงเวลาการชำระราคาค่าธรรมเนียม Funding

ตัวอย่าง: สำหรับ BTCUSDT Perpetual Futures สมมติว่ามีการชำระราคาค่าธรรมเนียม Funding ทุก 8 ชั่วโมง

ระยะเวลาค่าธรรมเนียม Funding = 24 ÷ ช่วงเวลาการชำระราคาค่าธรรมเนียม Funding = 24 ÷ 8 = 3 ชั่วโมง

อัตราดอกเบี้ย = 0.03% ÷ ช่วงเวลาค่าธรรมเนียม Funding = 0.03% ÷ 3 = 0.01%

Funding Rate ขั้นต่ำและสูงสุด

Funding Rate สูงสุด = 0.75 × อัตราส่วน Maintenance Margin

Funding Rate ขั้นต่ำ = –0.75 × อัตราส่วน Maintenance Margin

ค่ามาตรฐานคือ 0.75 ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง 0.01–2 ได้

Funding Rate สูงสุดจะคำนวณตามอัตราส่วน Maintenance Margin ที่เลเวอเรจสูงสุด

Premium Index (P)

อาจมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างราคา Perpetual Futures และราคา Mark ซึ่งในกรณีดังกล่าว ระบบจะใช้ Premium Index ในการปรับ Funding Rate ครั้งถัดไปเพื่อทำให้สอดคล้องกับราคาที่สัญญา Futures กำลังเทรดกันอยู่ ณ ขณะนั้น

Premium Index (P) = [Max (0, ราคา Impact Bid − ราคาดัชนี) − Max (0, ราคาดัชนี − ราคา Impact Ask)] ÷ ราคาดัชนี

ราคา Impact Bid คือราคาที่ดำเนินการเฉลี่ยเพื่อดำเนินการ Impact Margin Notional กับฝั่ง Bid

ราคา Impact Ask คือราคาที่ดำเนินการเฉลี่ยเพื่อดำเนินการ Impact Margin Notional กับฝั่ง Ask

Impact Margin Notional คือขนาด Futures Position ที่เป็นไปได้โดยอิงจาก Margin มูลค่าคงที่ ซึ่งใช้ในการคำนวณราคา Impact Bid/Ask และความลึกของ Order Book โดยการคำนวณที่เฉพาะเจาะจงมีดังนี้:

ตัวอย่างเช่น หากอัตรา Maintenance Margin ขั้นต่ำของ BTCUSDT Perpetual Futures อยู่ที่ 0.5% ก็แปลว่า Impact Margin Notional สำหรับ BTCUSDT = 200 USDT ÷ 0.5% = 40,000 USDT

การคำนวณค่าธรรมเนียม Funding

ค่าธรรมเนียม Funding = มูลค่า Position × Funding Rate = ขนาด Futures Position × ราคาดัชนี × Funding Rate

หมายเหตุ: ระบบจะคำนวณค่าธรรมเนียม Funding เมื่อมีการชำระราคาตามมูลค่า Position โดยจะหักค่าธรรมเนียมจากผู้ใช้ที่เป็นฝ่ายชำระและโอนไปยังผู้รับ อย่างไรก็ตาม หาก Position ของผู้ใช้ที่เป็นฝ่ายชำระถูก Liquidate (บังคับขาย) หรือมี Margin ในโหมด Isolated Margin ไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้ฝ่ายที่เป็นผู้รับไม่ได้รับเต็มจำนวน